เมื่อถามอีกว่า ทางทีมทนายของ น.ส.นิ่งลักษณ์ จะฟ้องร้อง สนช. หากการลงมติถอดถอน นายสุรชัย กล่าวว่า ใครจะใช้สิทธิฟ้องร้องทางกฎหมายก็ดำเนินการไป แต่ต้องพิจารณาทบทวนว่าการแสดงความคิดเห็นข่มขู่เป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือ ไม่ อย่างไรก็ตามกฎหมายกำหนดให้การลงมติเป็นการลับ ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพื่อให้การทำงานของ สนช. เป็นอิสระ
อยู่ที่คู่ความทั้งสองฝ่ายประเมินตัวเอง จากการที่ได้มาแถลงเปิดคดี ตอบข้อซักถาม สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาตอบก็ยังมีสิทธิ์อีกครั้งที่จะมาสรุปในวันแถลงปิดคดีใน สิ่งที่สมาชิก สนช. สงสัย เพื่อแสดงเหตุผลสนับสนุนข้อกล่าวหา หรือข้อถกเถียงของตนเอง เชื่อมั่นว่าสมาชิกทุกคนตั้งใจที่จะฟัง เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ก่อนจะลงมติ” รองประธาน สนช.กล่าว
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมาตอบข้อซักถามที่คณะกรรมาธิการสอบถามทั้ง 35 ข้อหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า เจ้าของคำถามก็ได้เปิดเผยคำถามไปหมดแล้ว ถ้าจะเอาคำตอบของคำถามเหล่านั้นไปกล่าวในวันปิดแถลงคดีก็เป็นสิทธิ์ของผู้ ที่ไม่มาตอบข้อซักถาม จะได้คลายข้อสงสัยของตนเอง รวมทั้งเหตุผลที่ไม่มาตอบข้อซักถาม ซึ่ง สนช.ก็เปิดโอกาสให้กับทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ กระทั่งยินดีเลื่อนการพิจารณาเพื่อให้อดีตนายกฯ มาตอบคำถาม และเรื่องไหนที่ตอบไม่ได้ก็ให้ขออนุญาตประธานให้ผู้อื่นชี้แจงได้ ซึ่งการไม่มาตอบเลยมันทำให้เกิดปัญหาเนื่องจากเจ้าของคำถามเป็นเอกสิทธิ์ของ เขาที่จะถามกับเจ้าตัวเมื่อวันที่ 18 ม.ค.นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวล็อบบี้การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งคดีถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ว่า อย่าไปฟังกระแสข่าวว่า รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง สนช. จนเกิดความไขว้เขวหรือขาดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจของ สนช. ซึ่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เองก็ได้ปรามว่าไม่ให้สมาชิก สนช. ออกมาแสดงความคิดเห็นในลักษณะชี้นำอีก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กำลังมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว โดยจะมีการแถลงปิดคดีในวันที่ 21-22 ม.ค. และวันที่ 23 ม.ค.กฌจะลงมติถอดถอนทั้งสามคนหรือไม่ ซึ่งวาระการประชุมก็ได้แจ้งไปแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบข้อบังคับที่กำหนดไว้
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Origin: รองปธ.สนช.ยันลงมติสนช.เป็นอิสระ