จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะเดินทางไปยังอำเภอหนองมะโมง เพื่อตรวจติดตามโครงการแก้ไขปัญหาน้ำหลาก น้ำท่วม และปัญหาภัยแล้ง พร้อมเปิดที่ทำการเทศบาลตำบลหนองมะโมง ก่อนตรวจพื้นที่ โครงการขุดลอกคลองห้วยคต–วังหมัน โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูสระเก็บน้ำ บ้านหนองดู่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูสระเก็บน้ำ บ้านเขาดอนรัก บ้านหนองมะโมง และเดินทางต่อไปยังจังหวัดกาญจนบุรีต่อไป.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.ชัยนาท กล่าวถึงปัญหาของจังหวัดว่า จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่ 2,469,741 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,543,591 ไร่ มีประชากรจำนวน 332,163 คน ปัญหาสาธารณภัยที่สำคัญของจังหวัดชัยนาท คือ ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ำซากประกอบด้วย 2 อำเภอ คือ อำเภอสรรพยา ซึ่งสาเหตุเกิดจากน้ำล้นตลิ่ง และอำเภอหนองมะโมง สาเหตุเกิดจากน้ำป่าไหลหลาก ส่วนพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากประกอบด้วย 3 อำเภอ คือ อำเภอเนินขาม อำเภอหันคา และอำเภอหนองมะโมง อย่างไรก็ตามในจำนวนพื้นที่ ที่ประสบปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งของจังหวัดชัยนาทพบว่า อำเภอหนองมะโมงเป็นพื้นที่ที่ประสบทั้งปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งซ้ำซาก โดยครอบคลุมพื้นที่ทุกตำบล เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน ทั้งการขุดลอกคลอง การสร้างแหล่งกักเก็บน้ำในลักษณะแก้มลิงในพื้นที่ด้านข้างตลอดแนวคลอง การปรับปรุงฝายทดน้ำให้มีประสิทธิภาพในการส่งน้ำ ทดน้ำ ระบายน้ำ และกระจายน้ำ การจัดทำระบบส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตร และการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ จ.ชัยนาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดชัยนาท เพื่อประชุมมอบนโยบายและติดตามผลการดำเนินงาน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.ชัยนาท พร้อมด้วย นายธนาคม จงจิระ ผวจ.ลพบุรี นายชโลธร ผาโคตร ผวจ.สิงห์บุรี นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.อ่างทอง และหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ และกล่าวบรรยายสรุปปัญหาในพื้นที่
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้จังหวัดต่างๆ เร่งดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่สำคัญประกอบด้วย ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ, ปัญหาแรงงานต่างด้าว, ปัญหาการค้ามนุษย์, ปัญหาอุทกภัย, ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาการกำจัดขยะ ที่เป็นวาระสำคัญของชาติ รวมทั้งแผนงานโครงการที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ