นายหลี่ยังสัญญาว่าจะใช้มาตรการต่างๆ แก้ปัญหามลภาวะ รวมทั้งปกปักรักษาป่า ส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า ไปจนถึงกวาดล้างผู้ก่อมลภาวะและเจ้าหน้าที่รัฐที่สมคบคิดกับพวกที่ทำลายสิ่ง แวดล้อม หลังจากในปีนี้ จีนเพิ่งบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ ซึ่งเป็นฉบับแรกในรอบ 25 ปี
นายหลี่ยังเผยว่าจีนจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมในปีนี้ขึ้น 10.1% เป็น 886,900 ล้านหยวน (141,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ขณะที่จีนพยายามพัฒนาระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูง
การประชุมเอ็นพีซีปีนี้มีผู้แทนเข้าร่วมราว 3,000 คน จะสิ้นสุดใน 15 มี.ค. อนึ่ง จีนระบุว่าเอ็นพีซีเป็น “องคาพยพด้านอำนาจสูงสุด” ของประเทศ แต่ในทางปฏิบัติ เอ็นพีซีถูกมองว่าเป็น “สภาตรายาง” เพื่อรับรองนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งมีอำนาจสูงสุดเท่านั้น.
ในการแถลง “รายงานการทำงานของนายกฯ” หนา 38 หน้า ส่วนใหญ่ 30 หน้าพูดถึงเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลง โดยนายหลี่ใช้วลี “ภาวะปกติใหม่” ย้ำว่าการคาดการณ์จีดีพีเติบโตที่ 7% เป็นเรื่องธรรมชาติปกติ ซึ่งอาจดำเนินไปอีก 2-3 ปี เพราะปัจจัยขับดันเศรษฐกิจต่างๆ แผ่วลง หลังจากปีที่แล้วจีนตั้งเป้าจีดีพีเติบโตที่ 7.5% แต่พลาดเป้าเล็กน้อย เพราะเติบโตเพียง 7.4% ต่ำที่สุดในรอบ 24 ปี หลังเคยเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักมายาวนาน โดยปีหลังๆ จีนพยายามเปลี่ยนเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกและการลงทุนภาครัฐมากระตุ้นการ บริโภคภายในประเทศมากขึ้น
นายหลี่ยังให้คำมั่นว่าจะบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มงวดขึ้น ขณะที่จีนเผชิญปัญหามลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมขั้นรุนแรง ซึ่งเขาชี้ว่าเป็นตัวทำลายคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นภาระหนักในจิตใจของทุกคน ซึ่งรัฐบาลจีนจะต่อสู้กับปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมด้วยพละกำลังทุกอย่าง เท่าที่มีอยู่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แถลงเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) ประจำปี ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อ 5 มี.ค. โดยตั้งเป้าให้เศรษฐกิจจีนปีนี้เติบโตประมาณ 7% ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี และว่าจีนจำเป็นต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยเดิมๆ ที่ผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง จีนต้องดำรงไว้ซึ่งสมดุลที่เหมาะสม ระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องและการปรับโครงสร้างใหม่
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ