ทั้งบังคับให้อ้าปากเพื่อกระทำการบางอย่าง ตนจึงต่อสู้จนสามารถวิ่งหนีออกมาได้ แม้พระเอพยายามเหนี่ยวรั้งและล็อกเอวก็สู้แรงความตกใจตนไม่ได้ ก่อนหนีกลับห้องได้ จากนั้นพระเอได้ตามมาสั่งว่าห้ามไปบอกเรื่องนี้กับใคร กระทั่งรอจังหวะเผลอจึงพากันวิ่งหนีกลับบ้าน
ขณะที่ ด.ช.เอ็ม เปิดเผยว่า ถูกพระเอทำในลักษณะเช่นเดียวกันกับพี่ชาย แต่พยายามขัดขืนและหนีออกมานอกห้องได้ก่อน โดยยังไม่ทันได้พูดคุยและบอกเรื่องราว พี่ชายก็ถูกพระเอดึงเข้าไปในห้องแล้วสอบสวนพระเอให้การรับสารภาพว่า กระทำการตามที่เด็กชายกล่าวจริง แต่เพราะความรักใคร่เอ็นดูเท่านั้น ทั้งนี้จากการสอบถามญาติทราบว่า พระเอมีอาการทางประสาทอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ผู้ปกครองของเด็กชายทั้งสองคนไม่ติดใจเอาความเนื่องจากสงสารเพราะมีอาการป่วยทางจิต จึงพากันไปทำการลาสิขาเพื่อนำตัวไปรักษาอาการทางประสาทต่อไป
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 มี.ค. พ.ต.ต.มานพ ค้าขาย สวป. สภ.เมืองน่าน พร้อมพวกจับกุม พระเอ (นามสมมุติ) ลูกวัดแห่งหนึ่ง หลังนางน้ำ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ได้พา ด.ช.เก่ง (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี บุตรชาย และด.ช.เอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ หลานชาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินกับคดีกับพระรูปดังกล่าว ซึ่งพยายามล่วงละเมิดทางเพศลูกชายและหลานชายทั้งสองคน โดยนางน้ำ ให้การเพิ่มเติมว่า รู้จักพระเอ ซึ่งเพิ่งย้ายมาจำพรรษาที่วัดนี้ได้ 2 สัปดาห์ โดยพระเอ ได้ชักชวนให้นำลูกชายมาบวชเป็นสามเณรในช่วงปิดภาคเรียน ตนเห็นว่าเป็นความคิดที่ดีหวังให้ธรรมะขัดเกลาเด็กๆ ประกอบกับเมื่อวันที่ 4 มี.ค. เป็นวันมาฆบูชา จึงให้ลูกชาย กับ หลานชายไปนอนค้างที่อารามสงฆ์ เพื่อให้คุ้นเคยก่อนที่จะบวช แต่ปรากฏว่าช่วงกลางดึกทั้งสองคนได้วิ่งร้องไห้กลับมาที่บ้าน พร้อมกับเล่าว่าพระเอ พยายามจะล่วงละเมิดทางเพศ
ด้าน ด.ช.เก่ง ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ ภายในวัดมีเพียงตน น้องชาย และพระเอ เพียง 3 คน เนื่องจากพระรูปอื่นเดินทางไปต่างจังหวัด จากนั้นพระเอได้อุ้มตนเข้าไปที่ห้องพัก โดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก ก่อนจะพามานั่งที่เตียงนอน และทำการกอดหอมแก้ม ไซ้ซอกคอ พร้อมกับยกขาทั้งสองข้างขึ้นไปบนเตียงและกดตัวให้นอนลงที่เตียง จากนั้นก็ขึ้นคร่อมร่าง รวม
แหล่งที่มา : เดลินิวส์