วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คืบตึกปทุมฯถล่ม

kif7ekajgk5da5kkbkbk6'ผู้การปทุมฯ' เรียกประชุมสรุปความคืบหน้าคดีคอนโดฯถล่ม ขณะที่ 'ลูกป๋าลอ' ยังไม่เข้ามอบตัว




                    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ส.ค.57 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ปทุมธานี ได้เรียกประชุมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมดูแลคดีอาคารสูง 6 ชั้นถล่ม ถนนเลียบคลองหก ม.2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บริษัทกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.ปัญญา นาควิเชียร รอง ผบก. หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก. หัวหน้าฝ่ายสืบสวน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ รอง ผบก. หัวหน้าการบริหารจัดการจราจร และ พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก. หัวหน้ารักษาบริเวณที่เกิดเหตุจุดวิบัติภัยอาคารถล่ม


                    ทางด้าน พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมพนักงานสืบสวนและสอบสวนในคดีอาคารถล่มคลองหก และมอบหมายเพิ่มเติมในส่วนที่ตกค้างอยู่ ในด้านการสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว จำนวน 40 ราย และจะต้องดำเนินการสอบปากคำเฉพาะบางคนในประเด็นเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น

                    พล.ต.ต.สมิทธิ กล่าวว่าในส่วนด้านคดีได้ดำเนินการจับกุมมาแล้ว 5 คน ซึ่งเป็นนิติบุคคลได้มามอบตัวและได้ประกันตัวออกไป ยังเหลืออีก 2 คน คือ นางสาวกัญญารัตน์ หีบทอง เป็นนิติบุคคลได้ติดต่อขอมอบตัวในภายหลัง ส่วนอีกคนคือนายชานัยชนม์ เกิดเทศ ซึ่งเป็นลูกชายนายชะลอ เกิดเทศ เป็นผู้รับเหมา ซึ่งได้ข่าวว่าจะมามอบตัว แต่ก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย ถ้ามามอบตัวก็ดี คดีก็จะจบเร็วขึ้น



                    ส่วนสาเหตุของอาคารถล่มต้องรอกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มต่างๆ คือ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กองพิสูจน์หลักฐานกลาง กรมโยธาและผังเมือง และคณะวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เก็บวัสดุจากจุดพิบัติภัยอาคารถล่ม จากนั้นนำมาประชุมร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปสาเหตุของอาคารถล่มที่แท้จริง ซึ่งจะต้องใช้เวลา บางอย่างใช้เวลาเป็นเดือนๆบางส่วนเสร็จภายใน 10 วัน จึงต้องรอผลเสร็จพร้อมกันก่อน

 ข่าว:komchadluek.net

Source: คืบตึกปทุมฯถล่ม

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

น้องโบสาวมีเซ็กซ์

view_resizing_images.php"น้องโบ" สาวมีเซ็กซ์ในโรงพยาบาล เข้ามอบตัวแล้ว - ลั่นสำนึกผิด ที่ทำไปเพราะคึกคะนอง

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งอ้างชื่อตัวเองว่า "น้องโบ" รับติดตั้งกล้องวงจรปิด โพสต์คลิปร่วมรักกับแฟนหนุ่มในห้องน้ำของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยหญิงสาวมีสายน้ำเกลืออยู่ที่มือซ้าย ต่อมานพ.สุทธิพงษ์ ศิริมัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.โยธิน เธียรสุขสันต์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  เกิดขึ้นในห้องน้ำรวมของตึกอายุรกรรม รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จึงได้มาแจ้งความให้ทางตำรวจช่วยสืบหาตัวหญิงสาวภายในคลิปมาสอบสวนดำเนินคดี เพราะได้ทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก

ความ คืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นพ.สุทธิพงษ์ ศิริมัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 18ส.ค. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 18.20 น. มีผู้แจ้งเข้าในเพจ เฟซบุ๊กของโรงพยาบาล พร้อมแนบภาพของหญิงคนดังกล่าวที่โพสต์ภาพร่วมรักภายในโรงพยาบาลมาให้ทางโรง พยาบาลตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาลหรือไม่ จึงสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ในเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “เอล ซ่า” และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากก่อนหน้าที่หญิงคนดังกล่าวจะโพสต์ภาพร่วมรักในโรงพยาบาลนั้นได้ โพสต์ภาพถ่ายตนเอง มารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยเช็กอินสถานที่ระบุชัดเจนว่ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศ หล้า อีกทั้งเครื่องแต่งกาย และลักษณะโดยรอบในภาพคล้ายกับโรงพยาบาล จึงเข้าอแจ้งความเพื่อเอาผิดหญิงคนดงกล่าว เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

นพ.สุทธิพงษ์ ให้สัมภาษณ์ต่อว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องอาบน้ำ ของห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 ชั้น 5 อาคารกาญจนภิเษก ซึ่งเป็นห้องน้ำรวมชายหญิงที่ใช้ทางเดินทางเดียวกัน เนื่องจากพื้นที่จำกัด โดยก่อนหน้านี้ห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 อนุญาติให้เพียงญาติผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิงเฝ้าเท่านั้น  แต่เนื่องจากมีผู้ป่วยได้ทำเรื่องร้องเรียนว่ามีแต่ญาติที่เป็นผู้ชาย ถ้าไม่ให้ผู้ชายเฝ้าที่ห้องดังกล่าว ก็จะไม่มีใครมาดูแล โรงพยาบาลจึงอนุโลมให้ผู้ชายสามารถเฝ้าไข้ผู้ป่วยในห้องดังกล่าวได้ โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

“หลังจากนี้จะหาทางไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะขึ้นอีก โดยเบื้องต้นจะมีการหารือเพื่อออกมาตรการการใช้ห้องน้ำ โดยไม่อนุญาตให้ผู้ชายใช้ห้องน้ำในห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 หากต้องการเข้าห้องน้ำต้องลงไปใช้ที่ชั้นล่างเท่านั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยต้องรับภาระที่หนักขึ้นกว่าเดิม ”ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า กล่าว

ด้านนายทวิบูล หฤทัยสถิตกุล นิติกรโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า พาผู้สื่อข่าวลงตรวจสอบห้องน้ำที่เกิดเหตุพบว่าภายในเป็นห้องที่มีห้องน้ำอยู่ 2 แถว แถวละ 3 ห้อง โดยพบว่าห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องอาบน้ำที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ห้องที่ 2 โดยห้องดังกล่าวมีลักษณะที่แตกต่างจากห้องอาบน้ำอื่น เนื่องจากเป็นห้องเดียวที่มีแนวท่อพีวีซีปรากฏอยู่ นอกจากนี้พื้นกระเบื้องในห้องดังกล่าวก็ตรงตามกับคลิปวิดีโอดังกล่าวด้วย ส่วนจุดที่ตั้งกล้องเพื่อถ่ายคลิปนั้น คาดว่าน่าจะวางไว้บนปุ่มฉุกเฉินสำหรับให้ผู้ป่วยกดเรียกพยาบาลหากประสบอุบัติเหตุภายในห้องน้ำ

โดยนายทวิบูล กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ราชการ ที่มีกฎระเบียบข้อบังคับการใช้สถานที่ราชการโดยทั่วไปอยู่แล้ว จึงกล่าวโทษให้เอาผิดหญิงคนดังกล่าวในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) เนื่องจากมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวในอินเตอร์เน็ต

ขณะที่พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ในห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 ให้สัมภาษณ์ว่า หญิงคนดังกล่าวเข้ามารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.จนถึงวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง โดยแพทย์ระบุว่าป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเมื่อตอนที่เข้ามารักษาตัวนั้น มีแฟนของหญิงคนดังกล่าวมาเฝ้าอย่างใกล้ชิด และพาเข้าห้องน้ำเป็นปกติเหมือนผู้ป่วยคนอื่นๆ ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจ แต่พอมาทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ทำให้รู้สึกไม่ดี เพราะเป็นการกระทำที่ไม่สมควร อีกทั้งยังอยู่ในอาการเจ็บป่วย ไม่น่าจะทำเรื่องดังกล่าวขึ้นเลย ทั้งนี้หากมีการเคร่งครัดในเรื่องเข้าห้องน้ำของผู้ชาย ก็จะทำให้พยาบาลได้รับความลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีพยาบาลเข้าเวรเพียง 3 คน แต่มีผู้ป่วยถึง 35 คน


 ต่อ มาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน หญิงสาวที่อ้างชื่อน้องโบ เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.โยธิน เธียรสุขสันต์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง จ.สมุทรสงคราม รับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหลังจากสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนปล่อยตัวไป

พ.ต.อ. โยธินกล่าวว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้น น้องโบระบุว่าสาเหตุที่เข้ามอบตัวเนื่องจากเห็นการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและกังวลใจ อีกทั้งรู้สึกสำนึกผิดกับการกระทำที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากว่าจะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก ที่ทำไปนั้นเพราะความสนุกและคึกคะนอง ขอโทษต่อร.พ.ที่ได้ทำในสิ่งไม่ถูกต้อง และขอโทษต่อสังคมที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม


ผู้สื่อข่าวรายางานว่าในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้มีการนำภาพของหญิงคนดังกล่าวออกมาเผยแพร่ โดยเป็นภาพที่หญิงคนดังกล่าว อยู่ในลักษณะเปลือยกาย และนำลิ้นจี่มาปิดไว้บริเวณอวัยวะเพศ

ด้านความคืบหน้าของสภ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ขณะนี้ได้ส่งหมายเรียกถึงหญิงคนดังกล่าวเพื่อมาให้ปากคำในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งส่งข้อมูลไอพี แอดเดรส เฟซบุ๊ก ของหญิงคนดังกล่าวให้กระทรวงไอซีที ตรวจสอบหาที่อยู่แล้ว โดยในเบื้องต้นหญิงคนดังกล่าวยังไม่ได้ติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ข่าว:khaosod.co.th

Source: น้องโบสาวมีเซ็กซ์

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รวบแล้วอดีตเศรษฐีหื่น

view_resizing_images.phpรวบแล้วอดีตเศรษฐีหื่น ข่มขืน 3 ลูกเลี้ยงยกครัวมาราธอน จนคนโตท้องใกล้คลอด!!

 เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้นำตัวนายโรจน์ อายุ 67 ปี อยู่ ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายของศาลจังหวัดนครปฐม ข้อกล่าวหา (ข่มขืนลูกเลี้ยงหญิง 3 คน) กลับมา สภ. หลังติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.ตาก ทั้งนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.บุญเลิศ บวรมหาชนก ผกก. นำโดย พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมศักดิ์ เฉลิมพันธ์ สว.สส. พร้อมพวก สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า จ.ตาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร จับกุมตัวนายโรจน์ ตรีอินทอง อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.300/2557 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 ข้อกล่าวหา ข่มขืนลูกเลี้ยงหญิง 3 คน

หมาย ที่ 1 ข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช้ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร , พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร” หมายที่ 2 ข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช้ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนา จาร , พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร” หมายที่ 3 ข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร” โดยจับกุมได้ที่เพิงพักไม่มีเลขที่หุบเขาหมี บ้านลีซอหมู่ที่ 10 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก

พฤติการณ์คือ นายโรจน์ อายุ 67 ปี อดีตเป็นเถ้าแก่มีวังเลี้ยงกุ้งใน อ.ดอนตูม ฐานะระดับเศรษฐีคนหนึ่ง ต่อมาธุรกิจวังกุ้งขาดทุนจึงหันมารับเหมาตัดไม้ ได้มาอยู่กินกับหญิงหม้ายลูกติดเป็นหญิงล้วน 3 คน ที่บ้าน ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านฝ่ายหญิงตั้งแต่ปี 2551 ต่อมาราวปลายเดือน มิ.ย. 57 ครูประจำชั้นของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกเลี้ยง เหยื่อที่ถูกข่มขืน ซึ่งเรียนอยู่ รร.แห่งหนึ่ง จ.นครปฐม สังเกตเห็นน้องบี อ้วนผิดสังเกตโดยเฉพาะที่ท้อง จึงสอบถามจนทราบว่า กำลังตั้งท้องได้ 7 เดือนและท้องกับพ่อเลี้ยงโดยถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่ 15 มิ.ย. 56 และเมื่อสอบถามก็ทราบว่า แม่ก็ทราบเรื่องและทราบว่าท้องกับพ่อเลี้ยง แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะต้องอาศัยให้นายโรจน์ เลี้ยงดูทั้งครอบครัวคือตัวแม่ ตัวเอง และน้องสาวอีก 2 คน ก็ถูกนายโรจน์พ่อเลี้ยงข่มขืนด้วยเช่นกัน ครูจึงพาเด็กไปร้องที่บ้านพักเด็กจังหวัดนครปฐม และได้พาเด็กเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ดอนตูม

หลังจากครูและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กพาเหยื่อเข้าแจ้งความนายโรจน์ พ่อเลี้ยงก็หลบหนีไปจากพื้นที่ ต่อมาวันที่ 7 ก.ค.57 ศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับนายโรจน์ พ่อเลี้ยง พ.ต.อ.บุญเลิศ บวรมหาชนก ผกก. ก็สั่งให้ พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมศักดิ์ เฉลิมพันธ์ สว.สส. พร้อมพวกออกสืบสวนจนทราบว่านายโรจน์พ่อเลี้ยงหื่น ผู้ต้องหารายนี้หลบหนีไปอาศัยและรับจ้างปลูกลำไย และยางพาราที่บ้านลีซอหมู่ที่ 10 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก และต่อมาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สมศักดิ์ เฉลิมพันธ์ สว.สส.ฯ พร้อมพวก ได้ประสานกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า จ.ตาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร จับกุมตัวนายโรจน์ ได้ดังกล่าว ที่หุบเขาหมีบ้านลีซอหมู่ที่ 10  ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก นำตัวกลับมาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ดอนตูม

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นนายโรจน์อ้างว่า ไม่ได้ข่มขืนลูกเลี้ยง แต่ลูกเลี้ยงยินยอม และแม่เด็กก็ทราบและไม่ได้ว่าอะไร เพราะตนก็เลี้ยงดูทั้งนางแม่ และลูกสาวทั้ง 3 คนอย่างดี ส่วน น.ส.แบม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกเลี้ยงคนกลาง น้องสาวของ น.ส.บี ตนไม่เคยมีอะไรด้วย แต่เด็กมีนิสัยเปรี้ยวมีแฟนและคบกับเพื่อนชายวัยรุ่นจนมีเพศสัมพันธ์กับแฟนในหมู่บ้านเอง ส่วน ด.ญ.โบ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ลูกเลี้ยงคนเล็ก ตนก็ไม่เคยมีอะไรด้วย เพราะยังเด็ก

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลการสอบปากคำเด็กต่อหน้านักจิตฯ และจนท.ที่เกี่ยวข้องกับคดีเยาวชน ทราบว่า เหยื่อผู้เสียหายให้การว่า ถูกนายโรจน์พ่อเลี้ยงข่มขืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน.ส.บี ตั้งท้องใกล้คลอด ขณะที่ น.ส.แบม ถูกนายโรจน์พ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่ 15 เม.ย.57 และ ด.ญ.โบ ถูกนายวิโรจน์พ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่ 20 เม.ย.57 จึงนำตัวผู้ต้องหา มอบให้ พ.ต.ท.ณรงค์ น้อยพันธ์ พงส.(ผนพ.) สภ.ดอนตูมฯ สอบสวนดำเนินคดี หลังถูกจับกุมนายโรจน์พ่อเลี้ยงหื่นให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้ข่มขืนลูกเลี้ยงยินยอม แม่เด็กรู้ ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะตนเองหาเลี้ยงทั้งครอบครัว


ข่าว:khaosod.co.th

รับติดตั้งกล้องวงจรปิด สนใจติดต่อได้ที่ http://okami-cctv.org

Source: รวบแล้วอดีตเศรษฐีหื่น

รวบ "พระจูนี่" ค้ายาบ้าคากุฏิ

view_resizing_images.phpรวบ "พระจูนี่" ค้ายาบ้าคากุฏิ - เสพเองด้วย สารภาพนักโทษคุกพัทยา โทรมาให้ช่วยปล่อยของ!

 เมื่อวันที่ 20 ส.ค. พ.ต.อ.สนอง วรรณโคตร กล้องcctv ผกก.สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมกับทหาร จากกองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดทหารบกสุรินทร์ ฝ่ายปกครองและสัสดี อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองลึง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สตึก กว่า 10 นาย เข้าตรวจค้นภายในวัดบ้านสำโรงพัฒนา หมู่ 4 ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และจับกุมพระจูนี่ หรือพระตั๊ก หรือนายจูนี่ ประดับศรี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 บ้านสำโรง ต.กระสัง อ.สตึก

หลังนายแหลม ผู้ต้องหาค้ายาบ้า ซัดทอดว่าเป็นผู้ให้นำยาบ้าไปจำหน่าย และสืบทราบว่ามีพฤติกรรมเสพและค้ายาเสพติด จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบยาบ้า 71 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบดึงกดปิดขนาดเล็ก ซุกซ่อนอยู่ในย่ามพระ และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจ สภ.เมืองลึง

ทราบว่านายแหลม (ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง) ชาวบ้านหนองปุน ต.กระสัง อ.สตึก มีพฤติกรรมเสพและค้ายาเสพติด ให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.จอมพระ และอ.สตึก จึงทำการล่อซื้อด้วยเงิน 2,500 บาท ได้ยาบ้า 10 เม็ด จากนั้น จึงได้เข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาได้พาไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบยาบ้าอีก 232 เม็ด โดยนายแหลมซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจาก “พระจูนี่” เพื่อเสพและจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ ก่อนจะถูกตำรวจล่อซื้อและจับกุม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในวัดบ้านสำโรงพัฒนา หมู่ 4 ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมจับกุมพระจูนี่ โดยพระจูนี่รับสารภาพว่า มีพฤติกรรมเสพและค้ายาเสพติด และเป็นผู้ให้นายแหลม นำยาบ้าไปจำหน่ายจริง ซึ่งจับได้ขณะเป็นพระที่ยังอยู่ในผ้าเหลือง ก่อนจะนำตัวไปให้เจ้าอาวาสสึก โดยดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

จากการสอบสวนพระจูนี่ ให้การรับสารภาพว่า เสพยาเสพติดก่อนบวชเป็นพระ และเคยติดคุกคดีค้ายาเสพติดมา 2 ปี 2 เดือน ที่เรือนจำพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะพ้นโทษเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา เมื่อบวชเป็นพระช่วงเดือนพ.ค. ก็ยังเลิกไม่ได้ จึงแอบเสพและค้ายาเสพติดด้วย โดยได้ยาเสพติด เพราะมีเพื่อนชื่อเด่น ที่เป็นเครือข่ายอยู่ในเรือนจำพัทยา โทรศัพท์จากในคุกและส่งยาบ้าให้ จึงให้นายแหลมเป็นคนไปรับยาบ้ามาจากพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อเสพและขายให้กลุ่มวัยรุ่นที่อยู่รอบวัด และจังหวัดใกล้เคียง

ล่าสุดนายเด่น ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพัทยา จ.ชลบุรี โทรศัพท์จากในคุกให้ช่วยปล่อยยาบ้าให้ เพราะช่วงนี้ขัดสนเงิน จึงให้นายแหลม ไปรับยาบ้ามาจากพัทยา 500 เม็ด นายเด่นจะให้ลูกน้องที่เป็นวัยรุ่นนำยาไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ตามที่ได้นัดหมายกันไว้ นำมาจำหน่ายให้กับพระและกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ใกล้วัด ในราคาเม็ดละ 250 บาท เมื่อขายยาบ้าไปแล้ว จึงค่อยโอนเงินไปให้นายเด่น ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้หญิงคนหนึ่งใน จ.ชลบุรี โดยเพิ่งโอนเงินเข้าไป 20,000 บาท ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมได้คาผ้าเหลืองในวัดดังกล่าว

จากนั้นชุดจับกุม จึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง ร.ต.ท.อุดร ภักษารัมย์ ร้อยเวรสภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย


ข่าว:khaosod.co.th

Source: รวบ "พระจูนี่" ค้ายาบ้าคากุฏิ

คสช. ไฟเขียว 1.6 แสนล. รื้อระบบไฟฟ้า ทดแทน 'แม่เมาะ'

EyWwB5WU57MYnKOuFBncl0lLRfiFV5hNcjoI5x7kf7dz1OlepBdhBLคสช. เห็นชอบปรับปรุงระบบไฟฟ้าทั้งระบบ วงเงิน 1.6 แสนล้านบาท ด้าน หน.คสช.ห่วงราคาสินค้าเกษตร ชมนักกีฬาวอลเลย์หญิง สร้างความสุข พร้อมปรับแก้อัตราภาษีในส่วนของอีโคคาร์

วันที่ 19 ส.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล้องcctv แถลงผลการประชุม คสช.เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 11/2557 ว่า ในระหว่างการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของราคาสินค้าเกษตร

โดยได้ขอความร่วมมือจากพ่อค้าคนกลาง ให้เห็นใจเกษตรกร และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดหาแนวทางในการขายสินค้าของเกษตรกรโดย ตรง ไม่ต้องรอมาตรการของภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียว ในส่วนการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ให้ทุกภาคส่วนหาแนวทางเพื่อให้การแก้ดำเนินการได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งยังแสดงความเป็นห่วงเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ซึ่งราคาตกต่ำลง โดยกำชับให้ช่วยเหลือเรื่องการเสริมสินเชื่อแปรรูปและผลิต เพื่อบรรเทาปัญหาของเกษตรกร

นอกจากนี้ นพ.ยงยุทธ ยังได้กล่าวถึงการพิจารณาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านพลังงานด้วยว่า ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจัดสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 ซึ่งจะปลดการทำงานในวันที่ 31 ธ.ค.60 โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน วงเงิน 36,811 ล้านบาท เบิกจ่ายงบลงทุน ประจำปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 4,059 ล้านบาท ใช้เงินตราต่างประเทศ 26,247 ล้านบาท และเงินบาทไทย 10,564 ล้านบาท แผนการดำเนินการก่อสร้าง 48 เดือน ซึ่งทางหัวหน้า คสช.ให้ไปศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้รอบด้านก่อนที่จะเริ่มแผนงาน นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ขยายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ 12 วงเงิน 60,000 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ 14,500 ล้านบาท และเป็นค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์ในประเทศและก่อสร้าง 45,000 ล้านบาท ดำเนินการภายในระยะเวลา 7 ปี 3 เดือน (ม.ค.56 - มี.ค.63) ซึ่งจะเป็นการสร้างสายส่งและสถานีไฟฟ้าเพิ่ม รวมไปถึงอนุมัติงบประมาณ 63,200 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้ และเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกู้เงินสำหรับงานใน 17 โครงการ งบประมาณปี 2557 วงเงิน 8,839 ล้านบาทด้วย

"หัวหน้า คสช.ได้มอบนโยบายเรื่องการไฟฟ้าว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และแก้ไขปัญหาไฟฟ้าตก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้งและสร้างความเดือดร้อนให้ แก่พี่น้องประชาชน" นพ.ยงยุทธ กล่าว

นพ.ยงยุทธ กล่าวอีกว่า คสช.ยังอนุมัติแผนแก้ปัญหาขยะมูลฝอยทั่วประเทศ โดยจะเริ่มนำร่องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้เทคโนโลยีแปลงขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิงก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่น พร้อมทั้งเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แก้ไขกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการค้างาช้าง ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า หรือพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรือไซเตส ให้แล้วเสร็จในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ก่อนจะรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมไซเตสรับทราบในปีหน้า

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า หัวหน้า คสช.ยังได้กำชับให้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมใน กระบวนการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยไม่ต้องแบ่งแยก ผู้ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก สปช.ต้องมีคุณสมบัติที่ตรงกับแต่ละด้านที่กำหนดไว้ เพื่อให้มีผลกับการปฏิรูปประเทศ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ขอให้ส่วนงานฝ่ายสังคม ได้มีการเตรียมความพร้อมในแง่ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายสังคม เช่น เรื่องของกฎหมาย และโครงสร้าง เพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปทันทีที่มีการดำเนินการคัดเลือก สปช.เสร็จสิ้นในเดือน ก.ย.นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับถึงความโปร่งใสในการสรรหา สปช. หากพบว่าจังหวัดใดล็อกตัวบุคคล ขอให้แจ้ง คสช.

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมศึกษารายละเอียดโครงการพัฒนาโครงข่ายขนส่ง คมนาคมทางรถไฟ ที่เชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศได้ ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำภาพยนตร์เพื่อประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งยังได้แสดงความชื่นชม และให้กำลังใจนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่ทำให้คนไทยมีความสุข

นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช.แถลงผลการประชุม คสช.ในส่วนของมาตรการส่งเสริมการผลิตรถอีโคคาร์ในไทยว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ถึงการลดอัตราภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ 81 และ 109 เพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ในระยะที่ 2 ซึ่งในประกาศฉบับที่ 81 จะแก้ไขมาตรฐานมลพิษจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดิมอยู่ที่ 120 กรัม ต่อกิโลเมตร เป็น 100 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราใช้พลังงานเชื้อเพลิง 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เป็น 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และกำหนดขนาดเครื่องเบนซิน เป็น 1300 ซีซี ดีเซล เป็น 1500 ซีซี และ E85 และ B10 ขณะที่ยังคงอัตราภาษีเดิม คือ ร้อยละ 17 สำหรับประกาศฉบับที่ 109 มีเนื้อหาปรับแก้อัตราภาษีในส่วนของอีโคคาร์ เครื่องยนต์ดีเซล จาก 1400 ซีซี เป็น 1500 ซีซี ที่ร้อยละ 14 และ E85 และ B10 อยู่ที่ร้อยละ 12

ข่าว:thairath.co.th

Source: คสช. ไฟเขียว 1.6 แสนล. รื้อระบบไฟฟ้า ทดแทน 'แม่เมาะ'

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่นด่าแรงคนไทยเมาขับชน

557000009742501คนญี่ปุ่นวิจารณ์แรงพฤติกรรมคนไทย หลังเหตุคนไทยเมาแล้วขับชนนักเรียนญี่ปุ่นเสียชีวิต หวั่นส่งผลเลิกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวไทยเข้าแดนปลาดิบ

จากเหตุการณ์ 3 คนไทยเมาแล้วขับและไม่มีใบขับขี่สากล จนชนนักเรียนหญิง ม.ปลาย ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต ที่จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของคนไทย ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ในญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง และมีผู้แสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก เสนอแนะในทำนองว่า “รัฐบาลญี่ปุ่นควรยกเลิกการให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยไม่ ต้องขอวีซ่าได้แล้ว”

ขณะที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ของไทยบางแห่งอ้างว่า การแสดงความคิดเห็นในข่าวของคนญี่ปุ่นถึงกรณีนี้เป็นไปอย่างรุนแรง โดยระบุว่า บ้านเมืองเขาถือมากแค่ไหนเรื่องแบบนี้ มาทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องสูญเสีย เดือดร้อน ขณะที่ความเห็นหนึ่ง แปลเป็นไทยว่า “มึงกลับไปขับแบบนี้ที่บ้านมึงไป” ซึ่งกรณีนี้อาจส่งผลต่อมาตรการที่รัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกการตรวจลงตราหนังสือ เดินทาง (วีซ่า) ให้แก่นักท่องเที่ยวไทยในการเดินทางเข้าญี่ปุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้

“ASTVผู้จัดการออนไลน์” ตรวจสอบย้อนหลังพบว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้คนไทย เมื่อกลางปี 2556 ตรงกับช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 โดยเป็นการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ การพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่น สามารถพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ 15 วัน (หากผู้ยื่นประสงค์จะพำนักในประเทศญี่ปุ่นเกิน 15 วัน หรือไปทำงาน หรือมีวัตถุประสงค์อื่นๆ จะต้องยื่นขอวีซ่าตามปกติ)

การยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทย ผู้ที่จะเข้าประเทศได้จะต้องผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจึงจะสามารถเข้าประเทศได้ (เช่นเดียวกับผู้ที่ยื่นขอวีซ่ากับทางสถานเอกอัครราชทูต) ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะสอบถามถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือขอตรวจเอกสารที่จำเป็น เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ หรืออื่นๆ กรณีผู้ที่เคยมีประวัติการถูกส่งตัวกลับจากประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่อยู่ในระยะเวลาของการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่เคยละเมิดกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศอื่น และถูกศาลตัดสินลงโทษให้จำคุกมากกว่า 1 ปี จะไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ในกรณีที่มีเหตุสำคัญเกี่ยวกับทางด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นต้องเข้าประเทศ ญี่ปุ่นนั้น สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประกาศใช้มาตรการนี้ 3 เดือน ก็เริ่มมีปัญหาว่า การยกเว้นวีซ่านี้เป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ตั้งใจจะไปขุดทอง หรือลักลอบแอบแฝงเข้ามาทำงานและค้าประเวณี โดย นายธนาธิป อุปัติศฤงศ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ยอมรับว่า มีคนใช้ช่องทางการยกเว้นวีซ่าในทางที่ผิดเข้าประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำงานแทนการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีกระบวนการหลอกลวงจากประเทศไทยเองว่าจะพาเข้ามาทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและอาจทำให้ญี่ปุ่นทบทวนมาตรการยกเว้นวีซ่าก็ เป็นได้ (อ่านรายละเอียดข่าว ฟรีวีซ่าญี่ปุ่นสะเทือน!!! หลังโรบินฮู้ดไทยแห่ขุดทอง)

นอกจากนี้ เมื่อต้นปี 2557 ก็มีข่าวลือว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยกเลิกมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น ให้กับคนไทย ทำให้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกมาแถลงยืนยันว่าไม่เคยมีการประกาศยกเลิก มาตรการเหล่านี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นข่าวลือเมื่อต้นปี แต่ตอนนี้กำลังจะมีปัญหาใหม่ เมื่อคนญี่ปุ่นกำลังโยงเรื่องกรณีคนไทยขับรถชนคนญี่ปุ่นตายมาเรียกร้องให้ยก เลิกการยกเว้นขอวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับคนไทยอย่างถาวร

ข่าว:manager.co.th

ต่อบริษัทกล้องวงจรปิด http://okami-cctv.org

Source: ญี่ปุ่นด่าแรงคนไทยเมาขับชน

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เปิด Time Machine!! ย้อนกลับไปดู เว็บไซต์ Microsoft ในยุคเริ่มแรก

1994-1994Apr-1995Aug-MS-comในช่วงยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ยังคงมีเว็บไซต์ไม่มาก โดยใน 20 ปีที่แล้ว เว็บของบริษัท กล้องวงจรปิด Microsoft ที่ปัจจุบันนี้เป็นบริษัทไอทีที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆของโลกก็เพิ่งถูก สร้างขึ้น ในโอกาสเฉลิมฉลองครบครอบ 20 ปีของเว็บ บล็อกของ Microsoft จึงได้นำหน้าตาเว็บในอดีตมาโพสให้ทุกคนได้เห็นกัน

เว็บไซต์ของ  Microsoft เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หน้าแรกมีเพียงตัวหนังสือกับพื้นหลังสีเทา พร้อมด้วยรูปภาพพื้นหลังสีดำเสมือนอวกาศ พร้อมโลโก้ Microsoft และลิงค์เพื่อเข้าสู่หน้าต่างๆ ของเว็บ ซึ่งถือว่าทันสมัยในยุคนั้น เนื่องจากผู้เข้าเว็บบางคน ยังไม่สามารถเปิดดูเว็บที่มีรูปภาพได้ เพราะโปรแกรมไม่รองรับ

โดยใครที่อยากไปลองใช้ ลองเล่นดู ทาง Microsoft ก็ได้ทำเว็บจำลองไว้ให้ที่ http://www.microsοft.com/en-us/discover/1994/  ซึ่งเมื่อคลิกลิ้งค์ใด ก็จะเชื่อมไปยังเว็บไซต์ปัจจุบันของหัวข้อนั้นๆแทน สำหรับใครที่อยากไปดูหน้าตาเว็บในยุคต่างก็ไปตามดูได้ที่

http://blogs.microsoft.com

Source: เปิด Time Machine!! ย้อนกลับไปดู เว็บไซต์ Microsoft ในยุคเริ่มแรก

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น-แอพห้ามใช้มือถือขณะเดิน

บริษัทในญี่ปุ่นผลิตแอพพลิเคชันห้ามเล่นโทรศัพท์มือถือขณะกำลังเดิน หลังพบว่ามีอัตราการบาดเจ็บมากขึ้น เนื่องจากไม่มีสมาธิในการเดิน

ภาพ ชาวญี่ปุ่นเดินกดโทรศัพท์มือถือเป็นภาพที่เห็นจนชินตา กล้องวงจรปิดไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ธรรมดาหรือว่าสมาร์ทโฟน จากพฤติกรรมนี้ ทำให้ประชาชนไม่มีสมาธิในการเดินถนน เดินชนคนอื่น หรือบางครั้งก็ทำให้ลืมว่าตัวเองกำลังเดินอยู่

บริษัท NTT Docomo ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ชั้นนำของญี่ปุ่น จึงผลิตแอพพลิเคชันห้ามคนใช้โทรศัพท์ขณะเดิน โดยแอพนี้จะจับการเคลื่อนที่ของผู้ใช้ หากผู้ใช้กำลังเดินอยู่และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แอพพลิเคชันก็จะขึ้นข้อความห้ามใช้โทรศัพท์จนกว่าจะหยุดเดิน

นา โอฟูมิ ฮาระ วิศวกรของ NTT Docomo กล่าวว่า แอพพลิเคชันนี้ออกแบบมาเพื่อให้เด็กใช้ แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถใช้ได้ โดยตัวแอพฯ สามารถปรับระดับความละเอียดของเซ็นเซอร์ได้ว่า จะให้จับการเคลื่อนที่ละเอียดเท่าไร เพื่อให้สามารถใช้โทรศัพท์ในการเคลื่อนที่บางลักษณะได้ เช่นเล่นโทรศัพท์บนรถไฟใต้ดิน

ทั้ง นี้ รายงานอุบัติเหตุของปี 2013 ระบุว่า การส่งข้อความทางโทรศัพท์ขณะเดินทำให้ผู้คนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตทั้งหมด 36 คน มากกว่าสถิติปี 2012 ถึง 2.5 เท่า นอกจากนี้ ยังมีสถิติที่ระบุว่า การใช้โทรศัพท์ทำให้คนเดินช้าลง และทำให้สังเกตสิ่งรอบตัวน้อยลง จึงโอกาสถูกทำร้ายมากขึ้น

ข่าว:krobkruakao.com

Source: ญี่ปุ่น-แอพห้ามใช้มือถือขณะเดิน

แฮกเครื่องบินผ่าน Wi-Fi บนเครื่อง

thumb640x360_8313506902อะไรที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวประมวลผลหรือควบคุมการทำงานก็มีโอกาสที่จะถูกแฮกได้

หนึ่ง กล้องวงจรปิด ในยานพาหนะที่คนไม่อยากให้โดนแฮกก็คือเครื่องบิน แต่ล่าสุดที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ชื่อว่า Ruben Santamarta สามารถค้นพบวิธีแฮกเครื่องบินผ่านบริการ Wi-Fi และระบบให้ความบันเทิงบนเครื่อง

วิธี การของ Santamarta จะช่วยให้แฮกเกอร์แทรกซึมเข้าสู่ระบบอิเลคทรอนิกส์สำหรับควบคุมอากาศยานและ การสื่อสาร (avionics systems) นั่นหมายความว่าพวกเหล่าร้ายมีโอกาสที่จะรบกวนระบบนำทาง, การสื่อสาร และระบบรักษาความปลอดภัย

Santamarta ได้ทำการทดสอบแนวคิดและวิธีการของเขาในสภาพแวดล้อมปิดในโรงงานแห่งนึงของ IOActive ที่เมืองมาดริด โดยใช้เครื่องบิน Aviation 700 ที่มีระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่พัฒนาโดยบริษัท Cobham ซึ่งเค้าก็ประสบความสำเร็จในการแฮกเข้าสู่ระบบของเครื่องบิน แต่ทาง Cobham ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าวิธีนี้จะใช้กับสถานการณ์จริงได้ผลรึเปล่าเพราะระบบ ของเครื่องที่ขายจริงจะอนุญาตให้เฉพาะคนที่ได้รับอนุญาต มีสิทธิ์เข้าถึงได้เท่านั้น

ถ้า ใครสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม Santamarta ก็จะนำข้อมูลมาเผยแพร่ในงาน BlackHat 2014 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ค่ะ การเผยแพร่นี้ก็เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขและวิธีป้องกัน ก่อนที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดค่ะ

ที่มา dailygizmo.tv



Source: แฮกเครื่องบินผ่าน Wi-Fi บนเครื่อง

ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด

ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด


เลนส์ของกล้องวงจรปิดมีความสำคัญมากในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เพราะเลนส์ของกล้องวงจรปิดนั้น มีหลายขนาดให้เลือก และภาพที่ออกมาในแต่ละเลนส์จะไม่เหมือนกัน ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(mm.)น้อยจะเน้นมุมภาพกว้างมากกว่าภาพลึก แต่ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(mm.)มากความกว้างของมุมภาพก็จะแคบแต่ความลึกของภาพจะชัดมากกว่า ซึ่งในปัจจุบันเลนส์ของกล้องวงจรปิดที่ใช้กันทั่วไป คือ 3.5 mm , 4 mm , 6 mm , 8 mm , 12 mm และ 16 mm ซึ่งกล้องวงจรปิดแต่ละรุ่นสามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ตามความเหมาะสมได้ ดังนั้น เลนส์ของกล้องวงจรปิดสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ


1. เลนส์แบบ C-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 17.5 mm. ในเรื่องของข้อต่อเลนส์กับกล้องนั้น เลนส์แบบ C-Mount ควรจะใช้ข้อต่อแบบ C-Mount แบบเดียวกันจะเหมาะที่สุด


2. เลนส์แบบ Do-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 12.5 mm. ถ้าเอาข้อต่อแบบ C-Mount มาใช้ในการต่อแบบ Do-Mount อาจจะทำให้ภาพเกิดความเสียหายได้ เพราะความยาวของเลนส์กล้องแบบ C-Mount จะมีความยาวมากกว่าแบบ Do-Mount ดังนั้น ควรจะใช้ข้อต่อแบบ Do-Mount แบบเดียวกันมากกว่า


นอกจากนั้นในเรื่องของการรับรู้แสง (Aperture) และเปิด-ปิดม่านรับแสง (Iris)  ของเลนส์ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้


1. เลนส์แบบเปิด-ปิด ด้วยมือ (Guide Iris) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสง เพื่อให้รูของการรับแสงเปลี่ยนไป ด้วยการใช้มือหมุนในส่วนของวงแหวนปรับม่านแสงที่ตัวเลนส์ ยิ่งปรับที่ตัวเลขน้อยรูม่านแสงก็จะเพื่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าปรับไปที่ตัวเลขมากรูม่านแสงก็จะน้อยลง


2. เลนส์แบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Car-Iris) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสงแบบอัตโนมัติร่วมกับการทำงานของกล้องวงจรปิด โดยในกล้องวงจรปิดจะมีตัวจ่ายไฟฟ้าให้เลนส์ทำงานแบบอัตโนมัติอยู่