วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ระทึก! รถไฟหรูสิงค์โปร์ตกรางที่ราชบุรี

0ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.26 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถไฟโดยสารนักท่องเที่ยวตกรางที่จุดตัดทางข้ามรถไฟ หมู่ 18 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถไฟขบวนพิเศษของบริษัท Eastern Oriental Express สายสิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์-บัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพฯ ซึ่งกำลังจะมุ่งหน้าไปน้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่หัวรถจักรไปจนถึงตู้ขบวนที่ 7 สภาพตกรางอยู่ และนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ทราบชื่อ นางนาโอมิ อายุ 40 ปี และนางริโกโกะ อายุ 61 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.ซานคามิลโล บ้านโป่ง

จากการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนพิเศษเป็นรถไฟสุดหรูที่เปิดให้บริการท่องเที่ยวข้ามประเทศ โดยออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ทางรถไฟสายมรณะ จ.กาญจนบุรี แล้วใช้ทางรถไฟสายใต้ ลงประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งวันนี้ (27 ก.ค.57) พานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้ง ยุโรป และเอเชีย จำนวน 80 คน โดยสารรถไฟ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พื้นดินยุบตัว ส่งผลให้รางเหล็กถ่างออกจากกัน จึงทำให้รถไฟตกรางและผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง และเคลื่อนย้ายขบวนรถไฟดังกล่าว เพื่อเปิดการจราจรต่อไป

อ้างอิงจาก:sanook.com

Source: ระทึก! รถไฟหรูสิงค์โปร์ตกรางที่ราชบุรี

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พ่อบุกขึ้นโรงพัก! ร้องหลวงตาข่มขืนลูกสาว 9 ขวบ

news03-1เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จาก นายศร (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ซึ่งพาลูกสาววัย 12 ปี เข้ามาร้องทุกข์ด้วย โดยระบุว่าลูกสาวถูกพระลูกวัดแห่งหนึ่งในหมู่บ้านข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมกับข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร จนเกิดกระทบกระทั่งกับผู้เป็นพ่อ เมื่อทราบความจากลูกและบุกไปเอาเรื่องถึงในวัด

จากการสอบถาม นายศร ให้การว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทกล้องวงจรปิด ตนสังเกตเห็นว่าลูกสาว ด.ญ.ขวัญ (นามสมมติ) มีการซึมเศร้าและไม่ร่าเริงอย่างผิดปกติ จึงได้เค้นสอบถามกับลูกว่าเกิดอะไรขึ้น จนยอมเล่าให้ฟังว่า หลวงตาที่เป็นพระลูกวัดในหมู่บ้าน อายุประมาณ 65 ปี ทำการข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง แลกกับขนมและเงินจำนวหนึ่ง พร้อมกับขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร

นายศร ยังเล่าต่ออีกว่า เมื่อตนทราบเรื่องว่าลูกสาวถูกข่มขืน จึงได้เดินทางไปสอบถามถึงที่กุฏิวัด แต่ปรากฏว่าหลวงตารูปดังกล่าวได้ปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้ล่วงละเมิดลูกสาวแต่อย่างใด ทำให้ตนรู้สึกโมโหจัดจึงกำหมัดชกใส่หน้าหลวงตาไป ก่อนจะมีลูกศิษย์วัดเข้ามาห้าม

ต่อมาหลวงตารูปดังกล่าวจึงได้ส่งผู้ใหญ่บ้านมาเจรจากับตน ยืนยันว่าหลวงตาไม่ได้ข่มขืนลูกสาวตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับเสนอเงินให้จำนวนหนึ่ง เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบลงแต่โดยดี ตนจึงไม่ยินยอมรับเงินและเดินทางมาแจ้งความเอาเพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยทราบว่าพระรูปนี้มีประวัติลวนลามสีกาบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัว ด.ญ.ขวัญ ไปตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืนกระทำชำเราและนำมาเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี พร้อมกับเตรียมสอบปากคำ ด.ญ.ขวัญ กับผู้ปกครองอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

อ้างอิงจาก:sanook.com

Source: พ่อบุกขึ้นโรงพัก! ร้องหลวงตาข่มขืนลูกสาว 9 ขวบ

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คดีพลทหารถูกรุมทำร้ายดับในค่ายทหาร

news08-1

"อยากให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับลูกชายและครอบครัว และให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพลูกชาย ตนและภรรยาไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก" นายประจวบ กล่าว

นายประจวบกล่าวอีกว่า พลทหารชนะชนเป็นลูกชายคนเดียว และเป็นความหวังเดียวของครอบครัว แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตนและภรรยายังทำใจไม่ได้ เพราะอีกเพียง 3 เดือน ลูกก็จะปลดกระจำการแล้ว และลูกยังเคยบอกไว้ว่าอยากทำงานรับใช้ชาติ ที่ผ่านมาลูกเคยไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว หลังปลดประจำการก็ตั้งใจว่าจะไปสอบเข้ารับราชการทหาร แต่กลับมาเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก่อน จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายเรื่องความกระจ่างในคดี และช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่างๆ ที่ควรจะได้รับด้วย

"แต่ถ้ายังไม่ได้รับความกระจ่างเรื่องคดี กล้องวงจรปิด หรือยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะยังไม่เผาศพลูกชาย จากเดิมได้กำหนดจะฌาปนกิจในวันที่ 27 ก.ค. นี้ อาจจะเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด" นายประจวบ กล่าว - สำนักข่าวไทย

26 ก.ค. - พ่อแม่พล ทหารชาวบุรีรัมย์ที่ถูกทหารรุ่นพี่รุมทำร้ายเสียชีวิตในค่ายที่ จ.ชลบุรี ร้องขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ทั้งอยากให้ต้นสังกัดช่วยเหลือด้านสวัสดิการ เพราะลูกชายเป็นความหวังเดียวของครอบครัว เผยหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะยังไม่เผาศพลูกชาย

นายประจวบ เหลื่อมพิมาย อายุ 47 ปี และนางสมหวัง เหลื่อมพิมาย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.13 บ.โนนดินแดง ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พ่อแม่ของพลทหารชนะชน เหลื่อมพิมาย อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพลทหารกองประจำการสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชายถูกพลทหารรุ่นพี่ในค่ายเดียวกันรุมทำร้ายจนเสียชีวิตบนเรือนนอน ภายในค่ายทหาร

นายประจวบเล่าว่า จากคำบอกเล่าของเพื่อนพลทหารด้วยกันทราบว่าวันเกิดเหตุคือ วันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการจัดงานเลี้ยง ส่งพลทหารรุ่นพี่ที่จะปลดประจำการในวันที่ 1 ส.ค. และมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกันในงานเลี้ยง หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันขึ้นไปนอนตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 23 ก.ค. พลทหารรุ่นพี่ได้ขึ้นไปรุมทำร้ายพลทหารชนะชนบนเรือนนอนขณะกำลังนอนหลับ โดยที่ลูกชายไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ขัดขืนหรือปกป้องตัวเอง จนทำให้เสียชีวิต มีร่องรอยฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนและภรรยายังทำใจไม่ได้ จึงอยากให้ต้นสังกัดออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และอยากทราบความกระจ่างเรื่องคดี

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

 

Source: คดีพลทหารถูกรุมทำร้ายดับในค่ายทหาร

รับติดตั้งกล้องวงจรปิด closed-circuit television Internet digicam

ข้อแตกต่างระหว่าง CCTV และ Internet protocol address Television


 ในปัจจุบันมีกล้อวงจรปิดอยู่สองแบบ คือ CCTV และ Internet protocol address Photographic camera ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างแน่นอนทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ รวมถึงราคาด้วย ซึ่งจะแนะนำโดยคร่าว ๆ ดังนี้


Internet protocol address Photographic camera  นั้นมีความสามารถที่รวมความสามารถของกล้องวงจรปิดและระบบ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ครวมไว้ด้วยกัน คือ ในตัวกล้องจะมีความสามารถบันทึกได้ในตัวมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ คือ Image Running  Comression , Pressure , Online video media Evaluation Network Functionality ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่แตกต่างจาก CCTV และยังสามารถอัพเกรด   เฟริมแวร์ ได้ซึ่งลักษณะคล้าย ๆกับคอมพิวเตอร์ที่จะมีรหัส Internet protocol address ของแต่ละเครื่อง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์คโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ซึ่งสะดวกในการใช้งาน ซึ่งสามารถเชื่อต่อได้ทั้งสายแลน และ wi-fi compatability ซึ่งสามารถรองรับการทำงานได้โดยสะดวกและง่ายดายกับการทำงานในปัจจุบันแต่ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะมีราคาแพง


 กล้องวงจรปิด CCTV นั้นต้องมีองค์ประกอบที่เชื่อมต่อกันหลายอย่าง ทั้งตัวกล้อง สายสัญญาณ ตัวบันทึกข้อมูล และ การเชื่อมต่อต่าง ๆ และต้องอาศัยโปรแกรมในการตั้งค่าต่าง ๆ หากดูหลาย ๆ จอแลผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ยังต้องใช้ผ่นแอปพลิเคชั่นในการรองรับการใช้งาน แต่ที่ได้รับความนิยมเพราะมีราคาถูกกว่า


ด้วยการใช้งานในแบบเดียวกัน แต่ ความสามารถแตกต่างกัน นั่นแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของระบบกล้องวงจรปิดอย่างแท้จริง และแม้ในปัจจุบันเริ่มจะใช้ Internet protocol address Photographic camera กันบ้างแล้วแต่ก็เป็นตามหน่วยงานราชการ เอกชน หรือ โครงการหมู่บ้านใหญ่ ๆ ส่วนบ้านเรือนทั่ว ๆ ไปนั้นยังนิยมใช้ CCTV เพราะหาผู้ให้บริการที่ชำนาญได้ง่ายกว่า ราคาถูกกว่า และ การติดตั้งง่ายสะดวกนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ชาวระนองส่ายหัว! ส้วมซึมโผล่ภูเขาหญ้า ที่เที่ยวดัง

6ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 ก.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ พบหลุมส้วมซึมและคอห่านจำนวน 8 หลุม โผล่ขึ้นที่ทุ่งโล่งลานหน้า ภูเขาหญ้า ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของ จ.ระนอง ที่ถูกยกให้เป็น Unseen in Thailand ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่ามองและเป็นการทำลายทัศนียภาพของสถานที่ท่องเที่ยวแห่ง นี้ กล้องวงจรปิด พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้องเข้ามาดูแล และจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

จากการตรวจสอบพบว่ามีหลุมส้วมซึมและคอห่าน จำนวน 8 หลุม และบ่อพักที่มีฝาปูนซีเมนต์ ปิดไว้อีก 3 หลุมจริง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยว และงานปีใหม่ โดยได้มีการขุดส้วมชั่วคราวขึ้น เพื่อรองรับให้ผู้ที่มาเที่ยวงานได้ใช้บริการ แต่หลังจากเสร็จงานปีใหม่ ปรากฎว่าผู้รับเหมาหรือผู้จัดงานรื้อผนังและหลังคาส้วมชั่วคราวออก แต่ไม่ได้ฝังกลบหรือรื้อส้วมและคอห่านนี้ออกด้วย จึงเป็นที่มาของภาพดังกล่าว

ทั้งนี้ ชาวระนองที่ได้เห็นภาพดังกล่าวหลายคน ถึงกับส่ายศีรษะ พร้อมต่อว่าหน่วยงานและองค์กรปกครองท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่เข้ามารับผิดชอบ ปล่อยทิ้งไว้นานกว่า 7 เดือน จนมีการนำไปแชร์และส่งต่อกันในโลกออนไลน์

Source: ชาวระนองส่ายหัว! ส้วมซึมโผล่ภูเขาหญ้า ที่เที่ยวดัง

โดนหลอกเงินประกันงานศพลูกชาย หนำซ้ำ! ตร.เมินช่วย

news05-1เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2557 ที่ วัดบึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวได้ รับแจ้งร้องทุกข์จาก นางสำรวย วงษ์สุวรรณ อายุ 48 ปี ชาวบ้านเลขที่ 368 ม.2 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ให้มานำเสนอข่าวเป็นอุทาหรณ์ ให้ประชาชนทั่วไป ได้ระมัดระวังอย่าเป็นเหยื่อหลงกล แก๊งค์มิจฉาชีพ หลอกให้โอนเงินไปให้ เพื่อจะได้รับค่าประกันชีวิตของบุตรชายวงเงิน 600,000 บาท

นางสำรวย เปิดเผยว่า กล้องวงจรปิด ตนเป็นมารดาของ นายสุรศักดิ์ วงษ์สุวรรณ อายุ 31 ปี และลูกสะใภ้ นางสาวทัศนี วงศ์ แพงภักดิ์ อายุ 31 ปี ทั้งสองประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ที่ถนนพิษณุโลก-บึงพระ ม.2 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อคืนวันที่ 20 กรกฏาคมที่ผ่านมา พร้อมกับลูกในครรภ์อายุ 8 เดือน จากนั้นตนได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพลูกชายและลูกสะใภ้ที่วัดบึงพระ มีกำหนดการฌาปณกิจในช่วงเย็นวันนี้ (24 ก.ค.)

นางสำรวย เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (23 ก.ค.) มีผู้ชายคนหนึ่ง โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือ ขอแสดงความเสียใจกับตนและครอบครัว พร้อมกับแจ้งว่า ลูกชายตนทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ตนจำชื่อบริษัทไม่ได้ แต่ลูกชายตนขาดส่งเบี้ยประกันมาระยะหนึ่ง โดยอธิบายลักษณะของการทำประกัน คล้ายกับที่ตนเคยทำไว้ และดูน่าเชื่อถือมาก พร้อมบอกให้ตนโอนเงินเข้าไปยังบัญชีชื่อ นายสมชาย แซ่โค้ว ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาปาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา ตนจึงหลงเชื่อ เพราะลักษณะคำพูดและการอธิบายที่บอกให้ตนเตรียมเอกสารต่างๆ ไว้ ทั้งสำเนาใบมรณบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน และบริษัทจะนำพวงหรีดพร้อมเงินประกันจำนวน 600,000 บาท มาให้ที่วัด ในช่วงเวลา 12.30 น. ของวันเดียวกัน

นางสำรวย เล่าต่ออีกว่า ช่วงนั้นตนวุ่นอยู่กับการจัดงานศพ ลูกชาย จึงไม่ได้ไปค้นเอกสารการทำประกันชีวิตของลูกชาย จึงหลงกลไปโอนเงินที่ธนาคารกรุงไทย ครั้งแรกจำนวน 5,646 บาท มีเจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยกรอกให้ ต่อมาผู้ชายคนดังกล่าวโทรศัพท์เข้ามาหาอีกว่ายังขาดเงินอีก 2,000 บาท เป็นค่าให้นายเซ็นต์ จึงจะสามารถนำเงินค่าประกันชีวิตมาให้ได้เลย ตนก็บอกว่ามารับที่วัดได้หรือไม่ เพราะไม่อยากเสียเวลาอีก ผู้ชายคนนั้นก็หว่านล้อมอีก ตนกับน้องชายจึงกลับไปที่ธนาคารกรุงไทยและโอนเงินไปให้อีกรอบ รวม 2 ครั้งจำนวน 7,646 บาท และกลับมารอที่วัด

จนกระทั่งเวลาผ่านไป ผู้ชายคนนั้นก็ไม่มาที่วัดตามที่นัดหมาย ที่จะนำพวงหรีดและนำหลักฐานต่างๆ ต่อมาตนจึงรู้สึกเอะใจ ได้โทรศัพท์กลับไปยังหมายเลขที่เคยโทรศัพท์เข้ามา ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงทราบแล้วว่าโดนหลอก จึงเข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองพิษณุโลก

แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ นางสำรวย กล้องcctv เปิดเผยต่ออีกว่า เมื่อเข้าแจ้งความและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ฟัง แต่มีตำรวจนายหนึ่งพูดทำนอง "...อยากไปให้เขาหลอกเอง" ต่อมาตนำเอาใบแจ้งความไปติดต่อที่ธนาคาร ช่วยตรวจสอบข้อมูลของ นายสมชาย แซ่โค้ว พบว่าเป็นชาว จ.สระบุรี เปิดบัญชีธนาคารที่พระนครศรีอยุธยา เมื่อ 2 เดือนก่อน มีประวัติโอนเงินเข้ากว่า 100 ครั้ง ไม่มีการฝากเงินเข้า เมื่อเงินถูกโอนเข้าบัญชีก็จะถูกกดออกมาทันที

เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า เงินสดถูกกดจากตู้เอทีเอ็มสาขาโรจนะ ตนจึงได้นำหลักฐานดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานช่วยจับกุมคนร้าย แต่ปรากฏว่าถูกเจ้าหน้าที่เมินเฉย อ้างว่า ยังไงก็ตามเงินไม่ทันแล้ว กลับไปจัดงานศพลูกชายให้เสร็จก่อนดีกว่า ทำให้ตนจึงรู้สึกเหมือนถูกซ้ำเติม

ล่าสุด นางสำรวย บอกว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้โทรศัพท์มาหา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับคดีดังกล่าวและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับจะช่วยติดตามช่วยเหลือจับกุมคนร้ายต่อไป

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก พิษณุโลกฮอตนิวส์

Source: โดนหลอกเงินประกันงานศพลูกชาย หนำซ้ำ! ตร.เมินช่วย

บริการติดตั้งกล้องวงจรปิด|กล้องcctv

ประสิทธิภาพความคมชัดของกล้องวงจรปิด สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญก็คือ &ldquoเลนส์&rdquo ซึ่งหน้าที่ของเลนส์สำหรับกล้องวงจรปิดนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเลนส์สำหรับกล้องถ่ายภาพทั่วไปมากนัก


สำหรับหน้าที่ของเลนส์นั้น คือการเป็นตัวรวมแสง และค่อยปรับระยะภาพให้มีขนาดใหญ่ - เล็ก ใกล้ &ndash ไกลตามความเหมาะสม โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเลนส์ ซึ่งชนิดของเลนส์ที่นิยมใช้กันอยู่จะมี 3 ชนิดหลักๆ คือ


1. Repair IRISเป็นเลนส์ที่ไม่สามารถปรับช่องรับแสงได้ เหมาะกับการใช้ในสถานที่ภายในอาคารที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา


2. Handbook Eyeเป็นเลนส์ที่สามารถปรับช่องรับแสงได้ เหมาะสำหรับงานในอาคารที่มีความสว่างในแต่ละห้องไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถปรับแสงให้เหมาะสมในแต่ละห้องได้


3.Vehicle IRISคือเลนส์ที่สามารถปรับช่องรับแสงได้เองโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ตกกระทบเลนส์ ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่างเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม


ส่วนเลนส์ของกล้องวงจรปิดยังสามารถแบ่งตามการปรับระยะโฟกัส ซึ่งมี 3 ชนิดหลัก ๆ คือ


r Mono focal : ระยะโฟกัสจะถูกกำหนดไว้ตายตัว จะเปลี่ยนไม่ได้ เช่น 4 มม.


r Glide : สามารถปรับระยะโฟกัสได้ภายในช่วงที่กำหนดไว้ เช่น 2.8-12 มม.และเมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัสแล้ว จุดรวมแสงของเลนส์ก็จะยังคงอยู่


r Vari-focal Glide : เมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัส เลนส์จะต้องถูกปรับจุดรวมแสงใหม่ ซึ่งชนิดที่ใช้กันทั่วไปคือขนาด 3.5-8 มม.


สำหรับความยาวของระยะโฟกัสนั้น มีผลต่อองศาการมองเห็น เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าจะมีพื้นที่การมองเห็นภาพกว้างกว่า เช่น เลนส์ 4 มม.จะมีองศาการรับภาพมากกว่าเลนส์ 12 มม. นอกจากนี้เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าจะให้สัดส่วนของวัตถุผิดเพี้ยนมากกว่า

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลืมเด็กไว้ในรถ

111694ทำอย่างไรเมื่อจำเป็นต้องปล่อยเด็กไว้ในรถเพียงลำพัง หรือ หากพบเด็กถูกลืมไว้ในรถ ต้องรีบช่วยเหลือโดยด่วน เพราะการทิ้งเด็กไว้ในรถที่จอดตากแดดไว้แค่ 5-10 นาทีก็อาจเสียชีวิตได้ก่อนหน้านี้มีข่าวเด็กถูกลืมไว้ในรถยนต์จนเสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง ล่า สุด วานนี้ (21 ก.ค.) เด็กชายวัย 4 ขวบ ถูกคนขับรถรับส่งนักเรียนลืมเด็กไว้ในรถตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อกลับมาที่รถอีกครั้งเพื่อเตรียมนำรถไปรับเด็กนักเรียนกลับบ้าน จึงพบศพเด็กในรถ เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้น หากคนขับรถตรวจสอบให้ดีว่าเด็กลงจากรถหมดแล้วหรือไม่

เด็กที่ถูกลืมทิ้งไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดดไว้ ก็เหมือนถูกทิ้งไว้ในตู้อบที่ภายในรถจะค่อยๆ ทวีความร้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เด็กเกิดภาวะ Heat Stroke ส่งผลให้เกิดอาการชักเกร็ง เป็นลม น้ำลายฟูมปาก จนหมดสติและเสียชีวิตได้

หากจำเป็นต้องปล่อยเด็กไว้ในรถเพียงลำพัง ควรลดกระจกลงทั้ง 4 ด้านลง 1 ใน 4 เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรทิ้งเด็กไว้นานเกิน 10 นาที แต่ กรณีที่พบเด็กเริ่มเกิดภาวะ Heat Stroke ให้รีบนำเด็กออกมานอนในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก หรือเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน ,คลายชุดให้หลวม เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย หาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้า ศีรษะ ซอกคอ แขน ขา จากนั้นให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

อ้างอิงจาก:voicetv.co.th

Source: ลืมเด็กไว้ในรถ

เร่งแผนย้ายขนส่งหมอชิต2

768982คมนาคมสั่ง บขส.และขสมก. ทำแผนย้ายหมอชิต 2 เปิดทาง ร.ฟ.ท.ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ด้าน บขส.เปิดทางเอกชนหาพื้นที่ เตรียมชงงบ 5,000 ล้านบาทสร้างใหม่

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังประชุมแก้ไขปัญหาการจัดสรรพื้นที่บริเวณย่านพหลโยธินร่วมกับการ รถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)ว่า ที่ประชุมได้ให้ ขสมก. และบขส. ไปจัดทำกรอบระยะเวลาการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ(จตุจักร)หรือหมอชิต 2 และอู่จอดรถ ขสมก.ที่อยู่ติดกันออกจากพื้นที่ เนื่องจาก ร.ฟ.ท.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ต้องนำไปพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต

“ตามแผนงานที่กำหนดจะต้องทยอยย้ายออกตั้งปี 58 แต่คาดว่าจะไม่ทัน เพราะขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติเลย จึงคาดว่าจะเริ่มได้จริงในปีถัดไป โดยมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงให้ล่าช้ากว่าแผนงาน ที่กำหนด ซึ่งการก่อสร้างงานโยธาต้องเสร็จภายในปี 60 โดยปัจจุบัน บขส.ใช้พื้นที่บริเวณนี้ 73 ไร่ ส่วน ขสมก.ประมาณ 25ไร่”

นางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า พื้นที่ บขส. และ ขสมก.ในปัจจุบัน ทาง ร.ฟ.ท.จะก่อสร้างเป็นโรงซ่อมและที่พักรถของรถไฟชานเมืองสายสีแดง นอกจากนั้น ร.ฟ.ท.ได้มอบพื้นที่ 12.5 ไร่ ให้ ขสมก.  แบ่งเป็นบริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อฝั่งตรงข้ามอู่เดินรถ ขสมก.ในปัจจุบัน 9 ไร่ และบริเวณศาลเยาวชนเด็กเป็นสถานีก๊าช 3.5 ไร่

นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขสมก.ได้รับงบประมาณ 89.9 ล้านบาท เพื่อใช้ย้ายอู่จอดรถ ขสมก.ที่หมอชิต 2 ในปี 58-59 โดยประกวดราคาหาผู้รับจ้างออกแบบในเดือนก.ย.นี้ ใช้เวลาออกแบบ 6 เดือน จากนั้นเดือนมี.ค.58 จะประกาศประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างอู่จอดรถ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี หรือแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.59 โดยอู่จอดรถใหม่ในพื้นที่ 9 ไร่ จอดรถได้ 220 คัน ส่วนอีก 3.5 ไร่ มีแผนจะก่อสร้างเป็นสถานีเติมแก๊สภายในปี 60 ขณะที่การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่บขส. กล่าวว่า ได้นำผลการศึกษาโครงการย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2เสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.รองหัวหน้า คสช. แล้ว ขณะนี้รอการอนุมัติจากคสช.อยู่หาก คสช.อนุมัติ บขส.จะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมเสนอที่ดินในการก่อสร้างภายในเดือนส.ค.นี้และใช้ ระยะเวลาการออกแบบ ก่อสร้าง และเปิดให้บริการได้ภายใน 3 ปี

สำหรับโครงการย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 จะใช้พื้นที่ก่อสร้างรวม150 ไร่ มูลค่ารวม 5,000ล้านบาท แบ่งออกเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดิน 1,500ล้านบาท เฉลี่ยไร่ละ10 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายก่อสร้าง 3,500ล้านบาท สำหรับการจัดหาพื้นที่เบื้องต้นเปิดให้เอกชนเสนอที่ดินก่อสร้าง4 พื้นที่ คือ ย่านเมืองทองธานี ย่านดอนเมืองฝั่งขาเข้าฝั่งขาออก และย่านรังสิตช่วงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แหล่งข่าวจาก:dailynews.co.th

Source: เร่งแผนย้ายขนส่งหมอชิต2

กำไรบริษัทจดทะเบียนปี57ต่ำกว่าเป้า

770612บลจ.กรุงศรีคาดกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้5-8% ต่ำเป้าทั่วหน้า เหตุเศรษฐกิจวูบครึ่งปีแรกกระทบหนัก แม้ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่คงเร่งเครื่องไม่ขึ้นเต็มที่


นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนโดยภาพรวมปีนี้อาจเติบโตเฉลี่ยเพียง 5-8% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้10% เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจ และการเมือง กดดันผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนให้โตต่ำกว่าที่คาดไว้ในหลายบริษั ทและถึงแม้ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกัน บางธุรกิจยังประสบปัญหาการปรับตัว และบริหารค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ได้

พร้อมกันนี้คาดว่าดัชนี หุ้นไทยปีนี้จะมีแนวรับที่1,500 จุด และแนวต้านที่ 1,600 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับความชัดเจนด้านนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้งการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อนำมาสู่การเลือกตั้ง โดยประเมินว่าทิศทางการพัฒนาประเทศระยะยาว อาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจขยายตัวได้ 4-5% ภายใน 3-5ปี

ส่วนขณะ นี้ถึงแม้หุ้นในกลุ่มสื่อสารปรับตัวลดลง จากผลกระทบจากการเลื่อนประมูลโครงข่ายสัญญาณ 4 จี แต่เชื่อมั่นว่า ธุรกิจการสื่อสาร มีแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 5-10 ปี ข้างหน้า ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น คาดว่าจะได้รับผลดีจากโครงการของภาครัฐ แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ในการรอข้อสรุปด้านการประมูลต่าง ๆ เสร็จสิ้น

นอกจากนี้ แนวโน้มการเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ อาจมีต่อเนื่องไปอีก 2เดือน ส่งผลดีในการช่วยหนุนดัชนีฟื้นตัวขึ้นได้ อีกทั้งมีโอกาสที่มูลค่าการซื้อขายจะกลับมาเป็นบวกจากปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติ ยังคงมีมูลค่าขายสุทธิกว่า20,000ล้านบาท

อ้างอิงจาก:dailynews.co.th

Source: กำไรบริษัทจดทะเบียนปี57ต่ำกว่าเป้า

คสช. สั่งเร่งจัดหารถเมล์

330505[0]คสช. สั่งเร่งจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 3,500 คัน ให้คนกรุงใช้ คาดแล้วเสร็จในปี 2558 พร้อมให้ คตร. มาตรวจสอบความโปร่งใส

            เมื่อ วันที่ 22 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้สั่งให้กระทรวงคมนาคม ไปเร่งรัดองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดหารถเมล์เอ็นจีวี 3,500 คัน ให้แล้วเสร็จภายในปี 58 เพื่อบริการประชาชน

            โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่มี พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธานตรวจสอบเรื่องความโปร่งใสและความคุ้มค่าของโครงการ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ พิจารณาเรื่องความพร้อมของสถานีให้บริการก๊าซเอ็นจีวีและแผนการเดินรถที่ เหมาะสมระหว่าง ขสมก. และรถร่วมบริการด้วย

            นอกจากนี้ ที่ประชุม คสช. ยังอนุมัติให้ ขสมก. กู้เงิน เพื่อนำไปชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมปีงบประมาณ 58 จำนวน 4,401 ล้านบาท แยกเป็นการนำไปชำระหนี้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 2,870 ล้านบาท และค่าเหมาซ่อม 1,531 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันและพิจารณาวิธีการกู้เงินกำหนดเงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ

ทั้งนี้หากพิจารณาเปรียบเทียบการคิดดอกเบี้ย ระหว่างอัตราดอกเบี้ยค้างชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเหมาซ่อมกับดอกเบี้ยการขออนุมัติเงินกู้ในครั้งนี้จะทำให้ประหยัดค่า ดอกเบี้ยจ่ายได้เดือนละ 13.7 ล้านบาท หรือปีละ 164.2ล้านบาท

ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ได้เสนอให้ขสมก .ไปเร่งจัดทำแผนบริหารหนี้สินเสนอต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สิน และฐานะการเงินที่ชัดเจนและเกิดผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป

อ้างอิงจาก:kapook.com

Source: คสช. สั่งเร่งจัดหารถเมล์

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีสุดไฮเทค

เทคโนโลยีสุดไฮเทค ด้วยระบบ Privacy กล้องวงจรปิด


 ในบางครั้งนั้นกล้องวงจรปิด สามารถเข้าถึงในส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป อย่างเช่นในส่วนของบริเวณตู้เซฟ หรือสถานที่ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องการความปลอดภัยในส่วนพื้นที่นั้น ๆ ด้วย แต่ก็มีข้อความเสียงจากการบันทึก อย่างเช่น การบันทึกภายในห้องนิรภัย แต่เราไม่ต้องการให้กล้องบันทึกรหัสในการเข้าประตู หรือการบันทึกภาพในห้องส่วนตัว เนื่องจากว่ามีทรัพย์สินอยุ่ แต่ไม่ต้องการให้บันทึกในส่วนที่ใช้ในการแต่งตัวเป็นต้น


ดังนั้นจึงเกิดการพัฒนาเทคโนโลยี Privacy Masking เพื่อเอาไว้ปิดบังcctvบางส่วนของภาพที่ต้องการเก็บไว้เป็นความลับ ไม่ให้มีการบันทึกภาพเก็บไว้ เช่น บริเวณลูกบิดรหัสตู้เซฟประตูห้อง หรืออื่นๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อย่างเช่นคุณไม่ต้องการให้บันทึกภาพบริเวณหน้าต่าง ด้วยเหตุผลความเป็นส่วนบุคคล ก็จะสามารถปิดบังโดยสามารถขยับมุมกล้องได้อย่างอิสระ ซึ่งในกล้องวงจรปิดรุ่นที่ล้าสมัยนั้นไม่สามารถปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการบันทึก ไม่สามารถบังคับมุมอิสระได้ แต่ด้วยกล้องที่มีราคาสูงขึ้นมานิด มีเทคโนโลยี ไม่ให้มีการบันทึกภาพเก็บไว้ เช่น บริเวณลูกบิดรหัสตู้เซฟประตูห้อง หรืออื่นๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวPrivacy Masking จะสามารถบังคับมุมได้อย่างเสรี ไม่ต้องการให้เห็นส่วนไหนก็สามารถปิดบังเฉพาะส่วนได้เลย


อย่างเช่นกล้องวงจรปิดยี่ห้อiNNEKTรุ่น ZTI602V เป็นกล้อง Outdoor มีฟังค์ชั่นหลากหลาย รวมถึงเทคโนโลยี Privacy Masking สามารถส่องได้ระยะไกลถึง 60 เมตร ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการใช้งานในเวลากลางคืน แม้จะมืดแค่ไหนก็สามารถมองเห็นได้  อีกทั้งยังมีรูปทรงที่แข็งแรงเหมาะแก่การใช้งานภายนอกในบางกรณี เราก็ต้องการที่จะปิดบังภาพบางส่วนในมุมกล้องต่างๆ เช่น ชื่ออาคาร สถานที่ หรือแม้แต่ในจุดบริเวณที่เราไม่ต้องการจะให้ผู้อื่นเห็นภาพได้ ก็สามารถจัดวางมุมให้บังในพื้นที่ส่วนตัวได้

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลูกชายเสี่ยอลูมิเนียม ดับคาเก๋งหรู เข็มฉีดยาปักคาแขน

news07-1

ความคืบหน้ากรณีพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ที่จอดเอาไว้บริเวณถนนดวงพิทักษ์ ย่านคลองเตย พบเข็มฉีดยาปักคาอยู่ที่แขน เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (18 ก.ค.) เบื้องต้นน่าจะเกิดจากอาการเสพยาเกินขนาด

สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น325 ไอ สี บรอนส์เทา หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 7838 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดติดเครื่องเอาไว้ริมถนนดวงพิทักษ์ จากการตรวจสอบพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านในทั้ง 4 ด้าน เจ้าหน้าที่จึงได้งัดเพื่อเปิดประตู

เมื่อตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบศพผู้ชายแต่งกายดี นอนคว่ำหน้าอยู่ที่นั่งฝั่งคนขับ พบเข็มฉีดยาปักคาเอาไว้ที่แขนซ้าย อีกทั้งยังมีร่องรอยของเข็มฉีดยาอีกหลายตามแขนและขาหนีบ นอกจากนี้ยังพบเข็มฉีดยาใช้แล้วอยู่ภายในรถด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อในภายหลังคือ นายพลภัทร มหรัตนวิโรจน์ อายุ 32 ปี

ต่อมา นายสรศักดิ์ มหรัตนวิโรจน์ อายุ 36 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ โดยให้การว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องชาย ช่วยธุรกิจผลิตและส่งออกอลูมิเนียมทุกชนิดของครอบครัว แต่ภายหลังพบว่าติดยาเสพติด ทางครอบครัวจึงพาไปเข้ารับการบำบัดยาเสพติด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพลภัทร มีนัดกับแพทย์ที่สถานบำบัด หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากเสพยาเสพติดเกินขนาด ส่วนเป็นยาเสพติดหรือสารประเภทใดกำลังรอผลจากทางนิติเวช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ คาดว่าน่าเสียชีวิตมา 2 วัน เนื่องจากมีพยานพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดติดเครื่องทิ้งไว้ตลอด 2 วัน ก่อนจะพบศพผู้เสียชีวิต ขณะที่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจเหตุการเสียชีวิต จึงมารับศพเพื่อดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

Source: ลูกชายเสี่ยอลูมิเนียม ดับคาเก๋งหรู เข็มฉีดยาปักคาแขน

วิวัฒนาการของยามรักษาการณ์-กล้องวงจรปิด

ความปลอดภัยในชิวิตและทรัพย์สินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน เพราะ ความหลากหลายของคนในสังคม และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้มิจฉาชีพมีมากขึ้น ซึ่ง การที่มียามรักษาการณ์ตามจุดต่าง ๆ เช่น อาคาร บ้านพักอาศัย ต่าง ๆนั้น ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นแต่ค่าใช้จ่ายก็ตามเป็นเงาตามตัวทุก ๆเดือน และ ยังคงเสี่ยงต่อการที่มิจฉาชีพจะแฝงตัวมาให้อาชีพนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นในปัจจุบันจึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาความปลอดภัย และ เทคโนโลยีนั้นคือ กล้องวงจรปิด ที่มีพัฒนาการและวิวัฒนาการกันมาเรื่อย ๆ จากสมัยก่อนที่มีราคาสูง ในการวางระบบต่าง ๆและ การเลือกกล้องวงจรปิดซึ่งยังมีไม่มาก แต่ยุคเทคโนโลยีอย่างปัจจุบัน กล้องวงจรปิดมีให้เลือกมากขึ้น มีการพัฒนาออกมาสนองความต้องการหลายรูปแบบ การวางระบบง่ายขึ้น พัฒนาจนสามารถดูผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ตลอดเวลา และ ที่สำคัญ ราคาไม่แพง cctv จึงทำให้กล้องวงจรปิดได้รับความนิยมมากขึ้น และ สามารถเลือกได้มากขึ้นตามความต้องการ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้ได้ระบบของกล้องวงจรปิดที่สมบูรณ์ เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในบางแห่งนั้น ยามรักษาการณ์มีหน้าที่คอยดูความเคลื่อนไหวต่างๆ จากกล้องวงจรปิดอีกที หรือ ตรวจตราในบางจุด ที่ไม่สามารถติดตั้งกล้องได้ เช่น อาคารสำนักงาน หรือ ห้างสรรพสินค้า ที่ไม่สามารถติดกล้องวงจรปิดในห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือ ใช้ยามรักษาการณ์คอยตรวจตราในบางช่วงเพื่อเสริมประสิทธิภาพของการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้น และ สำหรับการใช้กล้องวงจรปิดนั้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และ สามารถตรวจตราความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ดังนั้นกล้องวงจรปิดจึงถือเป็นวิวัฒนาการของยามรักษาการณ์ที่ดีที่สุด

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตร.เปิดปฏิบัติการจับจริงทำผิดกฎจราจร5จอม

551420-01

ที่ปรึกษา (สบ10) เปิดโครงการปฏิบัติการจับจริง ผู้มีพฤติกรรมกระทำผิดกฎจราจร หรือ 5 จอม เริ่มปฏิบัติการจริง 17 ก.ค. 57

พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตวัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10), พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมเปิดโครงการปฏิบัติงานจราจร ภาค 2 ปฏิบัติการจับจริง ผู้มีพฤติกรรมกระทำผิดกฎจราจร หรือ 5 จอม คือ จอม ปาด, จอมล้ำ, จอมขว้าง, จอมย้อน, จอมปลอม ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจาก 5 จริง ที่กองบังคับการจราจรได้ปฏิบัติก่อนหน้านี้

โดยโครงการนี้จะเน้น การปฏิบัติในแยกสำคัญ 199 แยกทั่วประเทศ ซึ่ง แบ่งเป็นเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 90 แยก ในเขคภูมิภาค จำนวน 109 แยก โดยมีหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เป็นผู้กำกับดูแล

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเริ่มปฏิบัติการจริงในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ เพื่อเช่าชุดราตรีแก้ไขปัญหาการจราจร ร่วมถึงลดการเกิดอุบัติเหตุ และจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติให้ลดน้อยลง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้มีการประเมินผลปฏิบัติงานผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถติดตามผลการปฏิบัติได้ รวมถึงโครงการ 5 จริง ด้วยเช่นกัน

อ้างอิงจาก snook.com

Source: ตร.เปิดปฏิบัติการจับจริงทำผิดกฎจราจร5จอม

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

'สุขุม' คาดทหารตบเท้านั่ง 'สภานิติบัญญัติ-สภาปฏิรูป' เกินครึ่ง



"สุขุม นวลสกุล" คาดสภานิติบัญญัติ-สภาปฏิรูป มีทหารเกินครึ่ง ด้าน "วินธัย" ปัดข่าวลือทหารนั่ง 80 คน ชี้ต้องรอธรรมนูญชั่วคราวประกาศใช้ก่อน...


EyWwB5WU57MYnKOuFZlKJ9yZ7u4CwSpRORnqWuiigWFPP1uRd9ACy6

วันที่ 14 ก.ค. นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกระแสการคัดเลือกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า เชื่อว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่แต่งตั้งสัดส่วนของทหารเข้ามาทำหน้าที่ในสภา สนช. เกินครึ่งหนึ่งของจำนวน 200 คน ตามที่มีกระแสข่าว เนื่องจากต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ กล้องวงจรปิดในขณะที่ทราบว่าเป็นที่จับตาของสื่อมวลชน แต่อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีสัดส่วนของทหารประมาณ 70-80 คน เพื่อให้อาจสั่งการด้านนโยบายได้ เพราะมีการถอดบทเรียนจากที่ผ่านมา ในอำนาจสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ปี 2549 ที่ไม่สามารถควบคุมอำนาจใน สนช.ได้ แต่ในการพิจารณาเรื่องต่างๆ จะรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว

นายคมสัน กล่าวต่อว่า ที่มาของ สนช. ควรเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเป็นพิเศษ เพราะต้องเข้ามาพิจารณากลั่นกรองกฎหมายเป็นหลัก ขณะเดียวกัน ต้องมีนักเทคนิคด้านต่างๆ เช่น วิศวกร จัดสรรสิ่งแวดล้อม แรงงาน เกษตร และภาคธุรกิจ ให้มีความเหมาะสม ส่วนกระแสข่าวที่จะให้อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่มีความเป็นกลาง เข้ามาทำหน้าที่ใน สนช. นายคมสันต์ มองว่า เป็นเรื่องดี เพราะมีหลายคนที่มีความเหมาะสม

ทางด้าน นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงที่มาของ สนช. และ สปช. ว่า ขณะนี้น่าจะชัดเจนแล้วว่า คสช.เป็นผู้คัดเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติเอง มีจำนวนสองร้อยคน และไม่ห้ามข้าราชการประจำเป็น โดยน่าจะคัดเลือกบุคคลที่ คสช.ไว้วางใจ อาจเป็นทหารเกินครึ่ง เพราะจุดประสงค์ให้มาสนับสนุน คสช.เต็มที่ แต่อาจมีคนนอกเป็นไม้ประดับมาบ้าง แต่ที่มาของสภาปฏิรูปการเมือง จะคัดเลือกจากส่วนต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มวิชาชีพ 11 กลุ่ม ที่สำคัญให้เสนอมาจังหวัดละ 5 คน และเลือกให้เหลือ 76 คน ซึ่ง คสช.ก็เป็นผู้คัดเลือกเองอีก โดยการตั้งกฎเกณฑ์ให้มีการเสนอจาก 11 กลุ่ม เพื่อทำให้ดูมีหลากกลาย ท้ายสุดเสนอมากกว่าจำนวนจริง แต่ให้เหลือแค่ 250 คน ซึ่งในท้ายสุดก็ดูว่าจะเอาใคร เป็นคนเลือกสุดท้าย

นายสุขุม กล่าวต่อว่า คสช.พยายามวางกรอบให้เหมือนมีการเสนอจากทุกๆ ฝ่าย แต่เสนอเข้ามาเพื่อดูว่า คนไหนสมควรไว้วางใจให้เป็น คนที่ได้เป็น เพราะ คมช.เห็นว่าสนองนโยบาย คสช.ได้ เหมือนกับที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พูดไว้ ถ้าไม่เด็ดขาด ก็แก้ปัญหาไม่ได้ จุดประสงค์นี้ทำให้เข้าใจว่า คสช.ทำไมต้องอย่างนั้น ไม่ใช่มาตั้งคนคอยคัดค้าน หรือถ่วงดุล อาจไม่ถึงขั้นสภารีโมต ซึ่ง  คสช. มั่นใจว่า ทั้ง สนช.และ สปช.ไม่มาสร้างปัญหาและสนับสนุน คสช. รับผิดชอบแก้ปัญหาบ้านเมืองในเวลาจำกัด ทำให้ทุกอย่างนิ่ง จนมีรัฐธรรมนูญประกาศปลายปี 2558 เรียบร้อย

ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. เปิดเผยถึงเรื่องมีนายทหารกว่า 80 คน จะมาดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เป็นเพียงข่าวลือ เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการสรรหาบุคคลที่มาดำรงตำแหน่ง สนช. ต้องรอให้มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองชั่วคราวเสียก่อน

ส่วน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสัดส่วนข้าราชการในสภาปฏิรูปว่า ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้อง ต้องรอผู้บังคับบัญชาเป็นผู้คัดเลือก.

อ้างอิงจาก:thairath.co.th


Source: 'สุขุม' คาดทหารตบเท้านั่ง 'สภานิติบัญญัติ-สภาปฏิรูป' เกินครึ่ง

หนุ่มคลั่งอาละวาด ทำลายห้องขัง สน.คลองตัน ด่าตำรวจ

news03-1

วันที่ 14 กรกฎาคม ร.ต.ท.จุฑาพงศ์ ชาญดิลกโชติ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้รับแจ้งจากห้องวิทยุสน.คลองตัน ว่ามีชายเมาสุราอาละวาดคลุ้มคลั่ง ภายในรอยัลคอนโดมีเนี ยม ซอยพัฒนาการ 30 แขวงและเขตสวนหลวง จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.ท.สุพิณส์ สุขตะโก รองสว.ป.สน.คลองตัน ร.ต.ท.สถาพร โสตถิยิ้ม รองสวป.สน.คลองตัน ร.ต.ต.จงกล สุวรรณจันทร์กล้องcctv รองสว.ป.สน.คลองตัน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 23 ชั้น ประกอบกิจการเป็นห้องพักและสำนักงานให้เช่าบริเวณด้านหน้าพบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นเอสแอลเค สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ย5381 กทม. โดยมี นายฮาซัน บีลัน อายุ 24 ปี ชาว จ.ยะลา สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล สภาพมึนเมาพูดจาวกวน อยู่ภายในรถพร้อมกับ น.ส.ดีฟูซา ซานดาโรว่า (Dilfuza Shandjalilova) อายุ 24 ปี ชาวอุซเบกิสสถาน พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง

น.ส.ดีฟูซา อยู่ในสภาพหวาดกลัวทันทีที่พบเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้เล่าว่าถูก นายฮาซัน ทำร้ายร่างกายและข่มขู่ เจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายฮาซัน ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำตัวมาถึงที่ สน.คลองตัน ก็มีอาการคลุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยคำพูดหยาบคาย อาทิ "มึงรู้ไหมกูลูกใคร?" เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องคุมขัง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถพบขวดเหล้า 1 ขวด วางอยู่บริเวณใต้ที่นั่งด้านซ้ายและบริเวณที่นั่งฝั่งคนขับพบบุหรี่ 1 ซอง รวมทั้งกระโปรงหลังรถ เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนยาวบีบีกันซุกซ้อนอยู่ท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวน น.ส.ดีฟูซา เล่าว่า ได้รู้จัก นายฮาซันและเคยคบหาดูใจกันมา ระหว่างที่คบกันนั้น นายฮาซันได้ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จึงได้บอกเลิกรากันไป แต่นายฮาซันไม่ยอมตามงอนง้อเรื่อยมา จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนเดินทางมาที่คอนโดดังกล่าวเป็นที่ทำงาน นายฮาซันได้มาดักรอตนพร้อมกับฉุดกระฉากตน พร้อมขอเจรจาให้กลับมาคบกัน แต่ตนไม่ยอมจึงได้ขู่ทำร้ายตน ซึ่งขณะนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมากจึงได้แจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไป

ต่อมาได้มี นายวิสุทธิ์ ลิ้มวัฒนา อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัทดิจิตอล นิวเวิล์ด จำกัด ได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน พร้อมกับแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกรถของ นายฮาซัน ชนท้ายรถของตน เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแฮคคอร์ด สีฟ้า หมายเลขทะเบียน พห 8604 กทม. ได้รับความเสียหายที่บริเวณท้ายรถ

นายวิสุทธิ์ เล่าว่า เมื่อช่วง 09.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ขณะที่ตนขับรถออกมาเพื่อจะไปธุระ จนกระทั่งรถของตนมาถึงช่วงระหว่างซอยพัฒนาการ 32 รถคันดังกล่าวก็ได้พุ่งชนตนอย่างจัง หลังเกิดเหตุนายฮาซันก็ได้ลงมาเจรจาขอยอมความโดยเสนอเงินให้จำนวน 5,000 บาท แต่ตนไม่เอาเพราะจะเรียกประกัน นายฮาซันจึงได้รีบขึ้นรถและขับรถหลบหนีไปจึงได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.คลองตัน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าขณะที่ น.ส.ดีฟูซา กำลังลงบันทึกประจำวันอยู่นั้น นายฮาซันได้อาละวาดส่งเสียงดัง ทุบตีทำร้ายร่างกายตนเอง โดยการเอาหัวโขกกับรั้วเหล็กและกำแพง พร้อมกับทำลายข้าวของที่อยู่ในห้องขัง อาทิ ทุบโถส้วม ปีนป่ายลูกกรงเพื่อดึงกล้องวงจรปิดและทำลายทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้เจรจาเพื่อขอให้สงบสติอารมณ์ แต่นายฮาซันไม่ยอมได้ขว้างปาสิ่งก้อนอิฐใส่และด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ถ้อยคำหยาบคาย

พร้อมกล่าวว่าหากใครสามารถเดินเรื่องให้ออกจากห้องขังได้จะให้เงิน 100,000 บาท ผู้สื่อข่าวได้บอกให้นายฮาซันสงบสติอารมณ์กับถูกนายฮาซันต่อว่าอย่างรุนแรง พร้อมกับขว้างปาสิ่งของ จนเวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปในห้องควบคุมขังพร้อมกับใส่กุญแจมือและแยก ขังไว้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายฮาซัน เป็นบุคคลไม่มีสถานภาพทางทะเบียน ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งจะตรวจหาสารเสพติดเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเมาสุราอาละวาดก่อความเดือดร้อนรำคาญ , ชนแล้วหนี, ดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่, ทำให้เสียทรัพย์, พกพาสิ่งเทียงอาวุธปืน ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

แหล่งข่าว:sanook.com

Source: หนุ่มคลั่งอาละวาด ทำลายห้องขัง สน.คลองตัน ด่าตำรวจ

วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- อัยการสั่งสอบผู้อำนวยการช่องข่าวการเงินและควบดูแลฝ่ายการตลาดของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศจีน (CCTV) ข้อหารับสินบน

ผู้บริหารอาวุโสของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศ จีน ที่ดูแลค่าโฆษณา มูลค่าหลายพันล้านหยวน ถูกอัยการกักตัวเพื่อสอบสวนเหตุต้องสงสัยในการทุจริต


557000006365201นายกัว เจิ้นสี วัย 49 ปี ผู้อำนวยการช่องข่าวการเงินของCCTV และนายเถียน ลี่อู่ โปรดิวเซอร์รายการฯ ต้องสงสัยว่ารับสินบน ทั้งสองจึงถูกควบคุมตัว “เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา” สำนักอัยการประชาชนสูงสุด แถลงเมื่อคืนวาน (1 มิ.ย.)
ก่อนหน้านี้ ไฉซิน สื่อผู้ทรงอิทธิพลของแผ่นดินใหญ่ อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผย ระบุว่า นายกัวถูกอัยการจากมณฑลจี้หลิน ควบคุมตัวไปแล้ว อย่างไรก็ตามทางซีซีทีวี ก็ไม่ออกมาแสดงความเห็นแต่อย่างใด
ไฉซิน ระบุว่า หลังจากที่ นายหลี่ ตงเซิง อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ คนใกล้ชิดของอดีต “ซาร์” ความมั่นคงจีน นายโจว หย่งคัง ร่วงจากอำนาจเมื่อเดือนธ.ค. 2556 ก็มีข่าวว่า นายกัวผู้นี้เองที่คอยให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการสอบสวนนายหลี่
นายกัว เริ่มเข้าวงการผู้ประกาศข่าวการเงินในปี 2535 และขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในปี 2541 ไฉซินรายงาน
ระหว่างปี 2548-2552 นายกัวควบสองตำแหน่งทั้งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของcctv และ ผู้อำนวยการช่องข่าวการเงิน ซีซีทีวี2 ทว่า ในปี 2552 เขาก็ยุติบทบาทในฝ่ายการตลาด
ไชน่า เดลี รายงานว่า มูลค่าการประมูลการโฆษณาในซีซีทีวี เพิ่มขึ้นจาก 2,600 ล้านหยวน (ประมาณ 13,000 ล้านบาท) ในปี 2545 เป็น 15,900 ล้านหยวน หรือ ราวๆ 79,500 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา (2556)
ในฐานะผู้อำนวยการช่องข่าวการเงิน นายกัว รับดูแลรายการชื่อดังในแวดวงธุรกิจของแดนมังกร 2 รายการ คือ คนดังในแวดวงธุรกิจ และ รายการสิทธิผู้บริโภค
รายการบคนดังในแวดวงธุรกิจ ตีแผ่ชีวิตของผู้นำทางธุรกิจจำนวนมาก ส่วนรายการสิทธิผู้บริโภค หรือ 315 กาล่า ที่เริ่มออกอากาศตรงกับวันสิทธิผู้บริโภคโลก 15 มี.ค. ก็ส่งสายข่าวเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกิจลับ
“จากตำแหน่งใหญ่โต ในองค์กรที่มีอำนาจมาก เป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐที่มีอำนาจผูกขาด คุณจะเห็นเลยว่า คนจำนวนมากต่อคิวเข้าแถวให้สินบนเขา” นายเติ้ง อี้ว์เหวิน อดีตรองบรรณาธิการ สตัดดี้ ไทมส์ กล่าว
ในขณะที่ นายจัง จี้อัน อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัย ซุน ยัต เซน ให้ความเห็นว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่เลินเล่ออย่างมาก ที่ปล่อยให้หัวหน้าบรรณาธิการ และ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดขององค์ใหญ่ระดับซีซีทีวี เป็นคนๆ เดียวกัน
“ฝ่ายจัดทำเนื้อหาควรแยกขาดจากผู้ที่ดูแลผลประโยชน์ทางการค้า” นายจังกล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุด ของนโยบายปราบปรามการทุจริตของจีน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ย. 2555 เป็นต้นมา


อ้างอิงจาก:manager.co.th

Source: เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- อัยการสั่งสอบผู้อำนวยการช่องข่าวการเงินและควบดูแลฝ่ายการตลาดของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศจีน (CCTV) ข้อหารับสินบน

ปล้นทอง4ล. โต๊ะกังในห้าง ชิง180บ. ตร.นนท์ เร่งล่าตัว

โจร บุกเดี่ยวปล้นทอง"โต๊ะกัง"หนัก 182 บาทเกือบ 4 ล้านบาทกลางห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน รปภ.วิ่งไล่ตามจับแต่หนีรอดไปได้หวุดหวิด ตร.นนทบุรีเช็กบริษัทกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายชาย สูง 170 ซ.ม. สวมเสื้อแจ๊กเกตดำ ใส่หมวกแก๊ปพรางใบหน้า ทำทีเดินเข็นรถช็อปปิ้งดูลาดเลาฉวยโอกาสขณะ รปภ.เดินไปที่อื่น ชักปืนบุกปล้นใช้เวลาเพียง 40 วินาที กวาดทองหนีลอยนวล 


เมื่อ เวลา 17.45 น. วันที่ 11 ก.ค. ร.ต.ท.เสถียร เสนผาบ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นทอง ภายในห้างขายทอง "โต๊ะกัง งามวงศ์วาน" ชั้นจี เลขที่ 30/39-50 ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.นักรบ ชอบทำทาน สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

view_resizing_images.phpที่ เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพนักงานขายสาวหน้าเคาน์เตอร์ยืนหน้าตาตื่น น.ส.สิรินยา ศิริ อายุ 16 ปี เล่าเหตุการณ์ระทึกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพนักงานกำลังยืนรับลูกค้าอยู่ ได้มีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 ซ.ม. ใส่เสื้อแจ๊กเกตดำ ใส่หมวกแก๊ป เดินตรงเข้ามาหาตนพร้อมเปิดเสื้อโชว์อาวุธปืนข่มขู่แล้วสั่งให้อยู่เฉยถ้า ไม่อยากตาย แล้วชักปืนออกจ่อพนักงานอีกคนให้หยิบทองใส่ถุงผ้าลายที่เตรียมมา แต่ไม่มีใครกล้าหยิบ คนร้ายจึงกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้ามา กวาดสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท 19 เส้น หนัก 2 บาท 53 เส้น รวมน้ำหนักทอง 182 บาท มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ใส่ถุงก่อนจะวิ่งหลบหนีโดยมี รปภ.ของห้างวิ่งไล่ตามคนร้ายไป

ด้าน นายวัชชิระ ทาสาด เจ้าหน้าที่ รปภ. ให้การว่า ขณะที่ตนตรวจดูความเรียบร้อยห่างจากร้านทองโต๊ะกังที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงคนร้องและวิ่งแตกตื่นออกมาจากร้านทอง ตนจึงรีบวิ่งไปดูก็พบคนร้ายวิ่งสวนออกมาจากร้านทองดังกล่าว แล้วคนร้ายวิ่งออกไปที่ห้างโฮมโปรซึ่งอยู่ติดกันก่อนที่คนร้ายจะขึ้นรถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อ หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด 

ต่อ มาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายทำทีเข็นรถเข็นเดินอยู่ หน้าร้านโดยอาศัยช่วงที่ รปภ.ของห้างเดินตรวจตราไปที่ร้านอื่นก่อน จากนั้นตรงเข้ามาก่อเหตุปล้นทองทันทีโดยใช้เวลาลงมือเพียง 40 วินาที ภาพวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เร่งออกตรวจดูกล้องวงจรปิดตามจุดอื่นๆ ของห้างที่สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน และที่ห้างโฮมโปร เพื่อใช้เป็นเบาะแสตามล่าคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


อ้างอิงจาก:khaosod.co.th

Source: ปล้นทอง4ล. โต๊ะกังในห้าง ชิง180บ. ตร.นนท์ เร่งล่าตัว

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สังคมอึ้ง! หนุ่มหล่อแชร์ภาพ ตามหาผู้อุปการะเลี้ยงดู

news11-1(8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์ภาพของหนุ่มหล่อ ที่ทำประกาศตามหาผู้อุปการะ ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ พร้อมสรุปค่าใช้จ่ายรายเดือนมาให้อย่างครบถ้วนพร้อมบริษัทกล้องวงจรปิด สร้างความสนใจแก่ผู้ที่พบเห็น อีกทั้งยังมีการแชร์ภาพดังกล่าวไปทั่วโซเชียลมีเดียและกำลังเป็นที่พูดถึง กันอยู่ในเวลานี้

ตามรายงานระบุว่า ภาพหนุ่มตี๋หล่อ หน้าตาน่ารัก ถูกใจสาวแท้สาวเทียม ออกประกาศตามหาผู้อุปการะเลี้ยงดู กำลังถูกแชร์ในโซเชียลฯ ซึ่งมีข้อมูลอ้างว่า หนุ่มคนดังกล่าวเป็นนักศึกษาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ โดยประกาศที่ถูกเผยแพร่ออกมา ได้ชี้แจงข้อมูลและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างครบถ้วน ได้แก่

ค่าห้อง 8,000 บาท, ค่าผ่อนมือถือ 2,000 บาท, ค่าโทรศัพท์/อินเตอร์เน็ต 799 บาท, ค่าอินเตอร์เน็ตที่ห้อง 699 บาท, ค่าน้ำค่าไฟ 1,200 บาท, ค่าหมอสิว 4,000 บาท, ค่าฟิตเนส 2,499 บาท, ค่าช็อปปิ้ง 5,000 บาท รวมเดือนละ 24,197 บาท และมีค่าเล่าเรียน 30,000 บาท จ่ายทุก 6 เดือน

นอกจากนี้ ในประกาศยังมีข้อความอธิบายอีกว่า "เงินที่บ้านผลส่งมาพอ แค่ค่าอาหารต่อเดือนกับค่าเดินทางเท่านั้นครับ พี่คนไหนใจดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในตารางได้หมดผมพร้อมมีพี่คนเดียวครับ ถ้าให้ผมไปอยู่บ้านพี่ก็ประหยัดค่าห้อง ค่าเน็ต ค่าไฟได้อีก ผมเรียน.....อย่าอยู่ไกลมากครับ ถ้าพี่รับผิดชอบได้ไม่หมด ผมคงต้องมีพี่คนอื่นช่วยด้วย แต่ผมจะพยายามแบ่งเวลาให้สมดุลกับส่วนที่พี่ช่วยได้ครับ ผมจะทำหน้าที่ของผมคือรักษาหน้าและหุ่นให้ดี เวลามีอะไรกันผมเต็มที่ทุกครั้งครับ ความผูกพันย่อมช่วยให้ทุกอย่างดี ผมพร้อมโทรหาพี่ทุกวัน ถามสารทุกข์สุกดิบ ฟังพี่บ่น เป็นที่ปรึกษาให้ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันผมไปเจอได้อาทิตย์ละ2-3ครั้งครับ เรื่องความปลอดภัย สะอาด ผมป้องกันตลอดครับ ไม่ต้องห่วงครับผมชอบรุกมากกว่า อยากได้พี่ที่เป็นรับ แต่ถ้ารุกก็ไม่เป็นไรโอเคเหมือนกันครับ"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ภาพประกาศดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ บางคนมองว่าอาจจะเป็นภาพที่ทำขึ้นมาเป็นล้อเล่นหรือแกล้งกันในหมู่วัยรุ่น ขณะที่บางคนคิดว่า ประกาศหาผู้อุปการะเลี้ยงดูในหมู่วัยรุ่นในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติไป เสียแล้ว แต่การออกประกาศเช่นนี้ นอกจากสังคมจะไม่เห็นด้วย ยังถือว่าเป็นการดูถูกดูแคลนศักดิ์ศรีของตัวเองด้วย

แหล่งข่าวจาก:sanook.com

Source: สังคมอึ้ง! หนุ่มหล่อแชร์ภาพ ตามหาผู้อุปการะเลี้ยงดู

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปตท.แจ้งซ่อมเจดีเอเสร็จพร้อมจ่ายก๊าซฯตามปกติ

549855-01ปตท. แจ้ง แหล่งก๊าซฯ เจดีเอ ซ่อมบำรุงเสร็จ พร้อมจ่ายก๊าซฯ ตามปกติแล้ว ไม่พบปัญหาบริหารจัดการพลังงาน


นาย ชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินงานหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ-เอ18) ประจำปี ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน ถึง 10 กรกฎาคม 2557 รวม 28 วัน ได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ โดย ผู้ผลิตฯ ได้เริ่มจ่ายกล้องcctvไปยังก๊าซฯ เข้าสู่ระบบตั้งแต่เวลา 03.35 น. ของวันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าจะนะ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อเขต 7 อ.จะนะ เปิดวาล์วหน้าโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จ ในเวลา 04.35 น. เพื่อให้โรงไฟฟ้าจะนะเริ่มใช้ก๊าซฯ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในเวลา 05.00 น. โดยตลอดช่วงเวลาที่แหล่งก๊าซฯ ปิดซ่อมบำรุง ไม่พบปัญหาในการบริหารจัดการพลังงาน นอกจากนี้ ในช่วงปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ดังกล่าว ทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติขาดหายจากระบบ 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปริมาณการจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคใต้มีปริมาณจำกัดในระยะเวลา หนึ่ง โดยเฉพาะ ในช่วง 10 วันแรก
ของการซ่อมบำรุงฯ (13-22 มิถุนายน 2557) ทำให้ผู้ใช้บริการเอ็นจีวีไม่ได้รับความสะดวก ซึ่ง ปตท. ได้ประสานงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนบริหารพลังงานสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าล่วงหน้า รวมถึงจัดทำแผนการจัดส่งเอ็นจีวีล่วงหน้า และเร่งจ่ายเอ็นจีวีจนครบตามความต้องการใช้งานได้ตามภาวะปกติ

ทั้งนี้ นายชาครีย์ กล่าวอีกว่า ผู้ผลิตแหล่งก๊าซฯ จำเป็นต้องมีการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติตามแผนงานประจำปี เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการจ่ายก๊าซฯ ซึ่งในการปิดซ่อมบำรุงแต่ละครั้ง ปตท. ได้ประสานงานล่วงหน้าร่วมกับภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันวางแผนบริหารพลังงานให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ซึ่ง ปตท. จะทำหน้าที่เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ทั้งในวันนี้และในอนาคต

แหล่งที่มาของข่าว:innnews.co.th

Source: ปตท.แจ้งซ่อมเจดีเอเสร็จพร้อมจ่ายก๊าซฯตามปกติ

'ปนัดดา' นั่ง ปธ. เตรียมจัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา


'ปนัดดา' นั่ง ปธ. เตรียมจัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา




"ปนัดดา ดิศกุล" ปลัดสำนักนายกฯ นั่งประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการ จัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา พุทธมณฑล 7-12 ก.ค. นี้

EyWwB5WU57MYnKOuFZj3tDRNAfg8mYXUBxemJmRALAE4RE5EI78adIวันที่ 7 ก.ค. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยการถ่ายทอดกล้องวงจรปิด เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2557 ซึ่งปีนี้วันอาสาฬหบูชาตรงกับวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. โดยส่วนกลางกำหนดจัดงานที่พุทธมณฑล ระหว่างวันที่ 7-12 ก.ค.นี้

ส่วนภูมิภาคกำหนดจัดงานทุกจังหวัดและวัดทั่วราชอาณาจักร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้ใช้อำนาจหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานขึ้น 4 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการที่ปรึกษา คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการดำเนินการจัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชา ณ พุทธมณฑล และส่วนภูมิภาค

พร้อมกันนี้ ม.ล.ปนัดดา ได้กำชับว่าการจัดกิจกรรมในโอกาสวันอาสาฬหบูชาครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญมาก จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้กิจกรรมวันอาสาฬหบูชาครั้งนี้ประสบความ สำเร็จที่สุด เพราะพระพุทธศาสนาถือเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย

แหล่งที่มา thairath.co.th


Source: 'ปนัดดา' นั่ง ปธ. เตรียมจัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างในระบบกล้องวงจรปิด

ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างในระบบกล้องวงจรปิด


cctv02 (Small)กล้องวงจรปิด หรือ CCTVย่อมาจาก"Close Circuit Television System"หลักการทำงานจะเป็นการส่งสัญญาณภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ออกแบบติดตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ มายังเครื่องบันทึกภาพ (DVR) พร้อมการออกแบบการใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์และมือถือผ่านระบบอินเทอร์เน็ตซึ่งในระบบกล้องวงจรปิดจะต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่างน้อยดังต่อไปนี้
กล้องวงจรปิด มีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภท
Fixed Cameraหมายถึง ตัวกล้องวงจรปิดจะติดตั้งอยู่บนขากล้องหรืออื่น ๆ ซึ่งไม่สามารถจะขยับหรือหมุนเปลี่ยนทิศทางในการดูได้ ถ้าต้องการหมุนหรือเปลี่ยนทิศทางก็จะต้องถอดตัวกล้องแยกออกจากชากล้อง จึงจะเปลี่ยนตำแหน่งได้โดยรูปทรงของกล้อง FIX จะออกแบบเป็นรูปทรงกระบอก หรือรูปทรงโดม
Infrared Cameraเรียกย่อๆ ว่า IR เป็นกล้องวงจรปิดที่สามารถใช้ได้ดีในสถานที่ที่มีปริมาตรแสงน้อย(ที่มืด)โดยกล้องวงจรปิดอินฟราเรด จะทำหน้าที่ปล่อยแสง Infrared ไปกระทบกับวัตถุและสะท้อนกลับมายังเลนส์ ดังนั้นการปล่อยแสง Infrared จะเป็น ภาพขาว-ดำเท่านั้น
PTZ Cameraหมายถึง กล้องหมุนที่ปรับทิศทางได้ ซึ่งมีความสามารถที่จะปรับให้ หมุนซ้าย/ชวา ก้ม/เงย ได้ (Pan, Tilt and Zoom) ซึ่งการทำงานของกล้องวงจรปิดประเภทนี้ ต้องใช้อุปกรณ์ในการควบคุม (Controller)
เครื่องบันทึกภาพ หรือ DVRย่อมาจาก"Digital Video Recorder"เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในระบบกล้องวงจรปิดอย่างหนึ่งครับ โดย DVR ทำหน้าที่รับสัญญาณภาพจากกล้องวงจรปิดและทำการบันทึกภาพลงใน HDD ซึ่งมีลักษณะการบันทึกเหมือนเครื่อง Computer ทั่วๆ ไป สามารถบันทึกภาพได้ยาวนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับขนาดของ HDD และการตั้งค่าความละเอียดในการบันทึกนอกนี้ยังสามารถดูภาพย้อนหลังได้โดยกำหนดวันและเวลาในการเรียกดูข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและสามารถดูอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับการบุกรุก ในขณะที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุได้และคุณสมบัติอีกข้อที่เป็นจุดเด่นของเครื่องบันทึก DVRในปัจจุบันคือสามารถติดต่อกับระบบเครือข่ายเช่น LAN WAN หรือใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือได้
Digital Video Recorder การทำงานหลักๆคือการนำภาพวีดิโอมาประมวลผลแล้วทำการบันทึกภาพที่ประมวลผลในหน่วยความจำเช่น ฮาร์ดดิสก์ หรือหน่วยความจำอื่นๆ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ
1. Analog/Digitalคือ ทำงานแบบ อนาล็อกเป็นดิจิตอล เช่นกล้องวงจรปิดที่เป็นอนาล็อกต่อเข้ากับเครื่องบันทึกภาพที่เป็นระบบดิจิตอล
2. Digital/Digitalคือการทำงานแบบ ดิจิตอลเป็นดิจิตอล เช่นกล้องวงจรปิดที่เป็นกล้อง Network Camera หรือเรียกว่ากล้องไอพีต่อเข้ากับเครื่องบันทึกภาพแบบ NVR ที่ระบบดิจิตอลผ่านทางเครือข่ายโปรโตคอล TCP/IP
อุปกรณ์บันทึกวีดีโอ ต้องพิจารณาคุณลักษณะหลักๆ คือ

1. ชนิดของอุปกรณ์บันทึกภาพแบบ PC BASE จะใช้ในโปรแกรม MS Office มีแบบเป็น CARD และแบบผลิตสำเร็จมาพร้อม Computer จะมีคุณสมบัติมากมายเหมือน Computer แบบ STANDALONE เป็นแบบที่เป็นตัวเครื่องผลิตสำเร็จรูปมาจากโรงงานมีคุณสมบัติครบถ้วนราคาถูก
2. ความเร็วของภาพที่ดูจากจอภาพและความเร็วในการบันทึกภาพ จะพิจารณาเป็น ความเร็วภาพ/วินาที (Frame) ถ้ามีความเร็วสูง ภาพจะดูต่อเนื่องแต่เปลือง Memory ใน Harddisk มาก
3. มาตรฐานในการบีบอัดภาพ (Compression)มาตรฐานที่เป็นที่นิยมกันหลักๆ มีดังนี้ MPEG4 , MJPEG และ H.264 MPEG4 เป็นที่นิยมสูงสุดเพราะใช้พื้นที่ในการบันทึกน้อย
4. ระบบออนไลน์ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เครื่องบันทึกจึงควรที่จะดูผ่าน Internet และมือถือได้

Source: ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างในระบบกล้องวงจรปิด

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อุปกรณ์เสริมของกล้องวงจรปิดควรรู้อะไร

อุปกรณ์เสริมของกล้องวงจรปิดควรรู้อะไร


13844066275_2ea2f384e0_cเมื่อคราวที่แล้วเราได้รู้แล้วว่าก่อนการเลือกกล้องcctvมาติดตั้งใช้งานนั้นจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง และจะต้องวางแผนอย่างไรเมื่อคิดจะติดตั้งกล้องวงจรปิดมาใช้งานในบ้าน ร้านค้า หรือองค์กรของเรา แต่สำหรับมือใหม่แล้วอาจจะรู้จักคำว่ากล้องวงจรปิดและนึกภาพออกเป็นลักษณะแบบใดแต่อาจจะไม่รู้ว่ากล้องมีกี่อย่าง และอะไรบ้าง บทความนี้ผู้ที่กำลังจะติดตั้งกล้องcctvจะได้รู้ถึงอุปกรณ์เสริมชนิดของกล้องวงจรปิดและรายละเอียดต่างๆของกล้อง
แต่ก่อนที่จะไปดูว่าอุปกรณ์เสริมของกล้องวงจรปิดนั้น ผู้ติดตั้งจะต้องรู้เกี่ยวกับระบบ CCTV ของกล้องสักหน่อยว่ามันคืออะไรและทำงานอย่างไร ระบบ CCTV หรือที่เรียกกันว่า ระบบโทรทัศวงจรปิดเป็นระบบการส่งสัญญาณระหว่างจุดต่อจุดหรือที่รู้จักกันในแบบ Point to Point ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณแบบเรียลไทม์ โดยกล้องวงจรปิดที่ใช้งานทั่วไปมีอยู่สองแบบคือ แบบที่ติดตั้งตายตัวไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ อีกแบบเป็นแบบที่สามารถปรับหมุนหรือเปลี่ยนทิศทางบันทึกภาพได้ ผู้ติดตั้งที่คิดจะติดตั้งกล้องวงจรปิดมาใช้งานนั้นจะต้องรู้เรื่องความละเอียดหรือ Resolution ที่ได้กล่าวไปแล้วอีกอย่างที่ผู้ติดตั้งจะต้องรู้คือเรื่องของเลนส์กล้อง ซึ่งการเลือกกล้องวงจรปิดจะต้องคำนึงถึงการทำงานของเลนส์ที่มากับตัวกล้องด้วย ว่าชนิดของเลนส์มีอะไรบ้างและมันใช้งานอย่างไร ซึ่งเลนส์ที่ใช้กับตัวกล้องวงจรปิดนั้นมีอยู่สามแบบ คือ FIX IRIS IRIS เป็นเลนส์ที่มาสามารถปรับความสว่างได้เลสน์ตัวนี้จึงไม่เหมาะการใช้งานในที่มืด Manual Iris Iris เป็นเลนส์ที่จะต้องปรับค่าหรือตั้งค่าด้วยช่างที่ชำนาญ และเหมาะกับนำไปใช้ในสถานที่ที่มีแสงสว่างไม่เท่ากัน ส่วนเลนส์สุดท้ายคือเลนส์ Auto Iris เป็นเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนหรือปรับขนาดแสงได้เองอัตโนมัติ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับทุกสถานที่ และเหมาะที่จะนำไปตอดตั้งภายนอกอาคาร
กล้องวงจรปิดที่จะกลับมาเปิดดูย้อนหลังได้นั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องบันทึกภาพที่ค่อยรับการส่งสัญญาณภาพมาจากกล้องวงจรปิด ถ้าไม่มีอุปกรณ์ตัวนี้นั้น กล้องวงจรปิดก็อาจจะเป็นแค่กล้องทั่วไป การบันทึกภาพก็จะมีอยู่สองแบบนั้นคือแบบอนาล็อค ที่ใช้ Hard disk หรือ ตัวเก็บข้อมูลอื่นๆเข้ามาใช้ร่วมกัน และแบบที่บันทึกผ่าน Multiplexer ซึ่งการเก็บข้อมูลก็จะใช้ Hard disk เข้ามาบันทึกข้อมูลเช่นกันแต่ภายใน Hard disk นั้นจะแบ่ง Section ให้เท่ากับจำนวนของกล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้ง อีกทั้งมันยังสามารถส่งข้อมูลผ่านเข้าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปเก็บไว้อีกที่หนึ่งได้อีกด้วย ทำให้เมื่อเกิดปัญหากับเครื่องบันทึกข้อมูล ผู้ติดตั้งก็สามารถไปนำข้อมูลจากอีกฝั่งที่มันส่งข้อมูลไปทำให้ข้อมูลที่บันทึกนั้นยังมีอยู่เสมอ อย่างไรแล้วการเลือกเครื่องบันทึกข้อมูลนั้นอาจจะต้องเลือกที่รองรับเทคโนโลยีสักหน่อย หรืออาจจะมีความจุที่มาก เพราะถ้ามีความจุน้อยแล้วผู้ติดตั้งจะต้องค่อยลบข้อมูลนั้นออกอยู่เรื่อยๆ และถ้าเกิดปัญหาย้อนหลังจะไม่สามารถดึงข้อมูลเก่าๆมาดูได้อีก
กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่ไว้ช่วยบันทึกภาพบันทึกเหตุการณ์ต่างๆเอาไว้ การที่กล้องวงจรปิดจะใช้ได้นานหรือไม่นั้น อุปกรณ์เสริมก็มีส่วนช่วยให้กล้องวงปิดด้วยเช่นกัน อย่างเช่นการที่จะทำให้กล้องวงจรปิดนั้นทนต่อสภาพแวดล้อม หรือทนต่อสภาวะอากาศให้มีอายุใช้งานมากขึ้นนั้น ควรเลือกกล้องวงจรปิดที่ใช้ Stainless-steel เพื่อทนทานกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน หรือเลือกใช้กล้องวงจรปิดที่มีส่วนผสม Corrosion proof ที่จะช่วยให้กล้องวงจรปิดนั้นทนทานต่อการกัดกร่อนจากแดดและน้ำฝน เป็นต้น หรือบางรุ่นอาจจะมีระบบระบายอากาศภายในที่ระบายได้ทั้งความร้อนและความชื่น ทำให้กล้องวงจรปิดสามารถใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งคุณสมบัติพิเศษแบบนี้ผู้ติดตั้งควรสอบถามจากบริษัทที่เลือกติดตั้งว่ากล้องวงจรปิดที่ท่านเลือกนั้นมีระบบดังกล่าวหรือคุณสมบัติ หรือ อุปกรณ์เสริมอื่นๆที่จะทำให้กล้องวงจรปิดนั้นสามารถใช้งานได้นานขึ้น
อุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้การทำงานของกล้องมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในการบันทึกภาพนั้นก็คือ ฐานที่ตั้งของตัวกล้องวงจรปิด หรือที่เรียกว่า Pan & Tilt unit เป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถให้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้หลายทิศทางทั้งภาพที่เป็นมุมต่ำ ภาพมุมสูง เป็นต้น แต่การที่จะติดตั้งอุปกรณ์ชนิดนี้เข้าไปนั้น จะต้องติดตั้งบนเสาที่มีความสูงพอสมควรเพื่อที่จะสามารถปรับมุมกล้องให้ตรงตามความต้องการของผู้ติดตั้ง ซึ่งอาจจะเคยเห็นแล้วอย่างกล้องวงจรปิดตามสี่แยกไฟแดงที่เอาไว้บันทึกภาพตามมุมที่ตำรวจต้องการ ส่วนการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมชนิดนี้นั้น จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมสักหน่อยเพราะเนื่องจากอุปกรณ์เสริมชนิดนี้อาจจะไม่เหมาะใช้ภายในบ้าน แต่เหมาะไปใช้กับองค์กร โรงงาน สถานที่แจ้งอย่างแยกไฟแดงต่างๆ หรืออาจจะใช้ในงานอุตสาหกรรมรม เป็นต้น เพราะเนื่องจากความสามารถของมันอย่างที่กล่าวมาแล้วนั้น ราคาก็สูงพอสมควรเลยทีเดียว
เมื่อผู้ติดตั้งได้รู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ของกล้องวงจรปิดแล้วไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หลักอย่างกล้องวงจรปิดหรืออุปกรณ์เสริมก็ตามการเลือกใช้งานนั้น ผู้ติดตั้งจะต้องคำนึงถึงคุณภาพให้เหมาะสมกับราคาที่จะต้องควักกระเป๋าจ่ายออกไป อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดเป็นแค่การค่อยตรวจสอบดูเท่านั้นมันไม่สามารถป้องกันทรัพย์สินของคุณได้ 100% อย่างแน่นอน

Source: อุปกรณ์เสริมของกล้องวงจรปิดควรรู้อะไร

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สายใยแก้วนำแสง

สายใยแก้วนำแสง


Fiber Optic Connector

2719006054_555a8102fe_bคืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อตัวสายใยแก้วนำ แสง(Fiber Optic) ให้เข้ากับอุปกรณ์ต่อพ่วงหรือมีเดียชนิดต่าง ๆ ที่่ต้องใช้งานร่วมกันในระบบ เช่น Convertor, F/O Connector Adapter เป็นต้น ซึ่งก็มีหลายประเภทแล้วแต่จะเลือกใช้

Fiber Optic Converter

คือ อุปกรณ์ที่แปลงสัญญาณต่าง ๆ ที่เราต้องการส่งไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือ Lan ให้อยู่ในรูปแบบของแสงแล้วส่งไปตามเส้นใยแก้วนำแสง เมื่อถึงจุดหมายปลายทางก็จะมี Converter อีกตัวเปลี่ยนสัญญาณกลับมาเป็นแบบเดิม และ fiber optic Converter นี้ก็จะถูกแบ่งออกตามคุณลักษณะของสายใยแก้วนำแสง คือ แบบ ซิงเกิลโหมดและมัลติโหมด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่คุณภาพและการเลือกใช้

การเลือกใช้ Fiber Optic Converter จะขึ้นอยู่กับปัจจัยการใช้งานโดยแบ่งเป็นภายในอาคาร และภายนอกอาคาร

  • ภายในอาคาร (Indoor)


อุปกรณ์ แปลงสัญญาณจากสายใยแก้วนำแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยคุณสมบัติของ Indoor Fiber Optic Converter คือสำหรับใช้ในสำนักงานหรือในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิไม่สูงมากนัก ส่วนมากใช้ภายในอาคาร อุปกรณ์แปลงสัญญาณมีดังนี้

-Fiber Media Converter

-Fiber Video Converter

การใช้อุปกรณ์ชนิดภายในอาคาร (Indoor) จะมีราคาต่ำกว่าอุปกรณ์ชนิดภายนอกอาคาร (Outdoor) ประมาณ 2เท่า

  • ภายนอกอาคาร (Outdoor/Industrial Grade)


เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณที่ทนความร้อนได้สูง ใช้ในตู้คอนโทรลภายนอกอาคาร นิยมใช้ในงานกล้องวงจรปิดภาย นอกอาคาร และโรงงานอุตหาหกรรม โดยในระบบจะมีซอฟต์แวร์จัดการระบบ คอยควบคุมอุปกรณ์ ดูสถานะการทำงานอุปกรณ์ โดยการตรวจเช็คผ่านสำนักงานหรือจากภายนอก เพื่อดูสถานการณ์ทำงานของอุปกรณ์ได้ โดยอุปกรณ์แปลงสัญญาณมีดังนี้

-Media Converter

-Fiber to switchk PoE

-Fiber to Eternet Switch

ไว้ครั้งหน้าผมจะพูดถึงการประยุกต์ใช้งาน ระบบFiber Optic กับกล้องวงจรปิดนะครับ

Source: สายใยแก้วนำแสง

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กล้องวงจรปิด IP Camera คืออะไร?

กล้องวงจรปิด IP Camera คืออะไร?


7006110645_9015de16f3_hหลายคนคงสงสัยว่ากล้องวงจรปิด IP Camera คืออะไรกันใช่ไหมค่ะ กล้องวงจรปิด IP Camera เป็นกล้องชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหลักการทำงานคล้าย ๆ กับวงจรปิดทั่วไปแต่แตกต่างตรงที่กล้อง IP Camera มีความคมชัดสูง มีเลข IP Address เป็นของตัวเองทำให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถเสียบสายแลนหรือ Wifiได้เลย โดยไม่ต้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และไม่ต้องผ่านเครื่อง NVR เราสามารถเรียก IP ของกล้องcctv IP Camera มาดูแบบออนไลน์ได้เลยได้เลย ไม่เหมือนกับกล้องในระบบ Analog ที่ต้องผ่านเครื่องบันทึกภาพ DVR ก่อนถึงจะดูภาพกล้องแบบออนไลน์ได้
กล้องIP Camera เหมาะกับงานที่ต้องการความคมชัดสูง และต้องการความเร็วในการดูภาพ เพราะกล้อง IP Camera นั้น ภาพจะเป็นแบบ Real time ไม่ค่อยดีเลย์ จึงทำให้การดูภาพเป็นไปตามเหตุการณ์จริง ความคมชัดของกล้องแบบ IP Camera นั้น ก็มีความคมชัดหลายระดับให้เลือก ตั้งแต่ 1.3 Megapixel ถึง 3 Megapixel ยิ่ง Megapixel สูง ความคมชัดก็สูงตามไปด้วย ส่วนรูปทรงจะมีการออกแบบให้มีความทันสมัย และสวยงามจึงทำให้กล้องวงจรปิด IP Camera มีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไปจากกล้อง Analog และในเรื่องของการรบกวนของสัญญาณก็มีน้อยมาก เพราะการเดินสายของกล้องIP Camera จะใช้สาย Lanในการเดิน จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการรบกวนจะน้อยมาก ไม่เหมือนวงจรปิดแบบ Analog ที่ใช้สาย RG-6 ในการเดินจึงทำให้มีสัญญาณรบกวนค่อนข้างมาก
ในเรื่องของราคากล้องIP Camera ถือว่าแพงในระดับหนึ่งทีเดียว แต่ว่าถ้านำมาเปรียบเทียบกับการใช้งานแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะไม่ว่าจะเป็นความคมชัดในระบบ HD รูปลักษณ์ หรือการทำงานก็มีความรวดเร็ว ดังนั้น กล้องIP Camera จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

Source: กล้องวงจรปิด IP Camera คืออะไร?