ขณะเดียวกัน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวจีนจำนวนมากมีความกระตือรือร้นในการณรงค์ต่อต้านนักท่องเที่ยวชาวจีนที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในต่างประเทศ โดยกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.2556 ซึ่งผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวจีนร่วมกันสืบหาข้อมูลตามล่าตัวนักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวจีนมือบอน ที่ไปเขียนข้อความลงบนภาพวาดบนผนังถ้ำโบราณที่ประเทศอียิปต์ ทำให้วัยรุ่นผู้ก่อเหตุถูกประณามผ่านสื่อสังคมออนไลน์และถูกร้องเรียนไปยังโรงเรียนมัธยมที่กำลังศึกษาอยู่ จนทำให้ผู้ก่อเหตุและครอบครัวต้องออกแถลงการณ์ขออภัยต่อทั้งรัฐบาลอียิปต์และชาวจีนทั่วประเทศที่กระทำความผิดที่น่าละอายในครั้งนั้น
สำนักข่าวเอพีรายงาน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่าสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 13 ธ.ค.2557 สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนทำร้ายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินเอฟดี 9101 เดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังเมืองนานกิง ทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. โดยระบุว่า กลุ่มนักท่องเที่ยว 4 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ 2 คนเป็นคู่รักกัน ที่ไม่พอใจไม่ได้นั่งที่นั่งติดกันบนเครื่องบิน ทำให้ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งโวยวายสาดน้ำร้อนและ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่พนักงานต้อนรับ ส่วนผู้โดยสารชายอีกรายหนึ่งข่มขู่ว่าจะระเบิดเครื่องบิน จนทำให้เครื่องบินต้องวกกลับไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้ตำรวจมาควบคุมตัวผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวลงจากเครื่อง ขณะเดียวกัน มีผู้โดยสารบนเครื่องบินที่ไม่พอใจการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวบันทึกวีดิโอไปเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ยูทูบจนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก และสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี สื่อของรัฐบาลจีนได้นำคลิปดังกล่าวไปรายงานต่อ จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน
ด้วยเหตุนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ระบุว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 4 ราย จะถูกลงโทษอย่างหนัก ฐานกระทำพฤติกรรมที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของชาติและประชาชนจีนทั้งประเทศ ส่วนมัคคุเทศก์ที่รับผิดชอบนักท่องเที่ยวทั้ง 4 รายจะถูกลงโทษเช่นกัน ฐานไม่คอยดูแลสอดส่องพฤติกรรมของลูกทัวร์ แต่เนื้อหาแถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่าจะลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยวิธีใด
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: จีนลั่นลงโทษ 4นักท่องเที่ยว ทำเสียชื่อปท.! ใช้นํ้าร้อนสาด 'แอร์โฮสเตส