ทางสายการบินบางแห่ง เช่น ลุฟทฮันซา แห่งเยอรมนี ก็เสนอทางออกด้วยการจัดทำแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไว-ไฟบนเครื่องบินเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หรือแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของสายการบินเอมิเรตส์ที่ยกเว้นค่าบริการในส่วน 10 เมกะไบต์แรก หรือมีบริการอินเทอร์เน็ตไว-ไฟฟรีแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการของสายการบินเป็นประจำ
ทางที่ดีที่สุด ก็หักห้ามใจไม่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตสักระยะระหว่างโดยสารเครื่องบิน หากรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่มีความรู้ด้านเทคนิค หรือลูกเล่นในการใช้งานโทรศัพท์เพียงพอ
ขณะที่มีความเห็นจากนายโธมัส แบรดเลอร์ แห่งศูนย์ผู้บริโภค รัฐไรน์ เวสท์ฟาเลียเหนือ ว่า ปริมาณการให้บริการข้อมูลของระบบไว-ไฟบนเครื่องบินในระดับพื้นฐานที่ให้บริการกันอยู่ในเวลานี้นั้นไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงของผู้บริโภคแล้ว และฝ่ายผู้ใช้งานเองก็ควรพึงระลึกและปิดระบบการอัพเดตข้อมูลอัตโนมัติ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นรับ-ส่งอีเมล ระหว่างใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน
ทั้งยังควรอ่านรายละเอียดในสัญญาการใช้บริการให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะเงื่อนไขเกี่ยวกับปริมาณการใช้งานและค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากอัตราค่าใช้บริการในแพ็กเกจ ซึ่งคล้ายกับการทำสัญญาใช้บริการเครือข่ายมือถือที่พ่วงบริการอินเทอร์เน็ตภาคพื้นดิน และหากพบว่าสัญญานั้นคลุมเครือก็ขอเลือกการใช้บริการขั้นต่ำสุดไว้ก่อนและพึงระวังการใช้งานให้มากขึ้น
นอกจากการเปิดใช้บริการโรมมิ่ง หรือการเชื่อมสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือข้ามแดนในต่างประเทศที่เรามักจะได้ยินว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการโทรศัพท์และการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในระดับที่น่าขนลุก อาจถึงกับขายรถเพื่อมาจ่ายค่าบริการกันแล้ว การใช้อินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินที่สายการบินหลายสายเปิดให้บริการนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง มิเช่นนั้นจะเผชิญกับประสบการณ์น่าขนหัวลุกอย่างนักธุรกิจชาวแคนาดาที่เดินทางด้วยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ จากบ้านเกิดมายังสิงคโปร์ และเปิดใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน และต้องจ่ายค่าบริการสูงถึง 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 36,000 บาท) หรือเทียบได้กับค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัดในเส้นทางกรุงเทพ-ลอสแองเจลิส กันเลยทีเดียว
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อกระทาชายนายคนนี้ขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินฟรีที่สายการบินให้บริการแก่ลูกค้า และซื้อบริการเพิ่มในราคา 25 ดอลลาร์ แต่กลับปล่อยให้สมาร์ทโฟนของตนเองเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของเครื่องบินนานเกินเวลา ขณะที่แอพพลิเคชั่นต่างๆ ของสมาร์ทโฟนก็ระดมดาวน์โหลดข้อมูลกันอย่างอุตลุด ทำให้ปริมาณการใช้ข้อมูลของกระทาชายนายคนนี้มากเกินขีดจำกัดตามเงื่อนไขการให้บริการ เนื่องจากเขาลืมปิดเครื่อง และออกจากระบบ ก่อนที่จะหลับไป
แหล่งที่มา : คมชัดลึก