ด้านสภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย ( จีซีซี ) ที่ประกอบด้วย บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกแถลงการณ์เตือนเรื่องการเพิ่มมาตรการกดดันกลุ่มฮูซีย์ หลังย้อนไปเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จีซีซีใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ และแกนนำกลุ่มฮูซีย์อีก 2 คน
กลุ่มฮูซีย์ยกกำลังเข้าปิดล้อม สถานที่ราชการในกรุงซานาตั้งแต่เดือนก.ย. หลังไม่สามารถตกลงกับรัฐบาลของฮาดีในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ก่อนสถานการณ์บานปลายเป็นทั่วประเทศเมื่อเดือนม.ค. โดยนอกจากกลุ่มอูซีย์ต่อสู้กับทหารของรัฐบาลแล้ว ยังต้องปะทะกับกลุ่มอัล-กออิดะห์แห่งคาบสมุทรอาระเบีย ( เอคิวเอพี ) ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเยเมนด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ว่าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ทั้ง 15 ประเทศ มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันอาทิตย์ รับรองร่างญัตติที่เสนอโดยอังกฤษและจอร์แดน เรียกร้องให้กลุ่มกบฏอัล-ฮูซีย์ ซึ่งเป็นชาวชีอะห์ ถอนกำลังออกจากสถานที่ราชการทุกแห่งในเยเมน และปล่อยตัวประธานาธิบดีอับดราบูห์ รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ซึ่งเป็นชาวสุหนี่ทันที จากนั้นขอให้มีการเจรจาร่วมกับสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เพื่อคลี่คลายภาวะสุญญากาศทางการเมือง
นอกจากนี้ ยูเอ็นเอสซียังเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในเยเมนรับรองความปลอดภัยให้กับสถาน เอกอัครราชทูตและสถานกงสุลทุกแห่งในประเทศ หลังมีรายงานการทยอยปิดทำการและอพยพนักการทูตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันที่ประชุมเรียกร้อง Inchต่างชาติInch ยุติการแทรกแซงสถานการณ์ในเยเมน ที่เปราะบางถึงขีดสุด เสี่ยงต่อการล่มสลายและเข้าสู่สงครามกลางเมืองทุกเมื่อ พร้อมทั้งเตือนเรื่อง Inchผลกระทบที่รุนแรงInch หากกลุ่มฮูซีย์เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว ทั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่า Inchต่างชาติInch ที่ยูเอ็นเอสซีกล่าวถึง น่าจะเป็นอิหร่าน
แหล่งที่มา : เดลินิวส์