นอกจากนี้ รูปแบบสัญญาของโรงงานยาสูบได้ข้อสรุปว่าจะมีสัญญาด้านกระบวนการผลิตยาเส้น 2 สัญญา และสัญญาว่าจ้างในกระบวนการอื่นอีก 2 สัญญา โดยได้เพิ่มสัญญาผู้ที่จะเข้ามาวางระบบ ติดตั้งเครื่องจักรทั้งหมดอีก 1 สัญญา รวมทั้งสินเป็น 5 สัญญา
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้ข้อสรุป เรื่องการย้ายโรงงานยาสูบทั้งหมด เพื่อคืนพื้นที่ทำสวนสาธารณะเบญจกิตติให้เร็วขึ้น จากกำหนดเดิมต้องคืนทั้งหมดภายในปี 62 จะปรับให้เร็วขึ้นภายในปี 60 ซึ่งทางโรงงานยาสูบต้องเริ่มแผนย้ายโรงงานและทยอยคืนพื้นที่ทันที เช่น ในส่วนของโกดังร้างที่ไม่ใช้งาน และเตรียมเรื่องการก่อสร้างบ้านพักสำหรับพนักงานที่ต้องย้ายไปทำงานที่โรง แห่งใหม่ที่ จ.อยุธยา
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 24 ก.พ.นี้ โรงงานยาสูบจะประชุมคณะกรรมการ เพื่อหารือถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรใหม่ และสรุปเรื่องการย้ายโรงงานจากบริเวณสวนเบญจกิตติ คลองเตย ไปยังสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.โรจนะ จ.อยุธยา ซึ่งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้หารือเรื่องความคืบหน้าโครงการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรที่นำมา ใช้ในโรงงานแห่งใหม่ อ.โรจนะ จ.อยุธยา โดยได้ข้อสรุปว่า ยังคงกรอบงบประมาณตามเดิมที่ 6,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ในการหารือกับตัวแทนบริษัท ทั้งไทย และต่างประเทศกว่า 20 บริษัท ที่เสนอปรับราคากลางขึ้น 30 -55 % เนื่องจากกรอบวงเงินเก่ามีการอนุมัติไว้ตั้งแต่ปี 49-50
ทั้งนี้ ภายหลังที่โรงงานยาสูบได้ส่งทีมผู้บริหารและวิศวะกร เดินทางไปดูแหล่งผลิตเครื่องจักรในต่างประเทศ ได้ข้อสรุปว่าราคาเครื่องจักรในภาพรวมอาจไม่สูงอย่างที่ประเมินไว้ ประกอบกับทางโรงงานยาสูบจะนำเครื่องจักรเก่าที่ยังมีประสิทธิภาพดีเอาไปใช้ ได้บางส่วนทำให้ประหยัดงบประมาณ จึงทำให้วงเงินที่ตั้งไว้ 6,000 ล้านบาทยังเพียงพอต่อการลงทุนในครั้งนี้
แหล่งที่มา : เดลินิวส์