อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่เขาอธิบายต่อมากลับทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามมากขึ้น เมื่อเขาพูดถึงกลิ่นของอากาศในวันเกิดเหตุ "กลิ่นมันเหมือน-ี้ กลิ่นมันเหมือนน้ำหอม ผมเดาว่ามันคือความรักและความเกลียด ผมกำลังได้กลิ่นความรักและความเกลียด พวกเขามอบความรักและความเกลียดให้ผม" นายรูธกล่าว.ขณะที่ จีน โคล เจ้าหน้าที่ของทัณฑสถาน เออราธ เคาน์ตี ซึ่งนายรูธถูกคุมขังอยู่นับตั้งแต่ถูกจับกุมกล่าวว่า นายรูธพูดถึงเหตุฆาตกรรมนายไคล์เป็นครั้งแรก และหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 4 เดือน โดยนายรูธพูดว่า "ผมยิงพวกเขาเพราะพวกเขาไม่พูดกับผม ผมนั่งอยู่เบาะหลังของรถกระบะและไม่มีใครพูดกับผม พวกเขาพาผมไปที่สนามยิงปืน ผมก็เลยยิงพวกเขา ผมรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พวกเขาไม่คุยกับผม ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะยกโทษให้ผม"
ส่วนหนังสืออัตชีวประวัติของนายไคล์ซึ่งมีชื่อเดียวกัน มียอดขายสูงสุดนานหลายสัปดาห์ โดยนายไคล์มีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้วจากการทำงานกุศลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารผ่านศึก ที่กำลังทุกข์ทรมานจากภาวะ ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ (PTSD)
อนึ่ง จนถึงตอนนี้นายรูธไม่เคยเปิดเผยมูลเหตุจูงใจในการสังหารนายไคล์และนายลิตเติลฟิลด์ เนื่องจากคำให้การของเขาเต็มไปด้วยความสับสน แต่มีรายงานว่านายไคล์รู้สึกกดดันในขณะที่เขาและลิตเติลฟิลด์ขับรถกระบะพานายรูธไปยังสนามยิงปืน โดยไคล์แอบส่งข้อความหาเพื่อนของเขาที่นั่งอยู่ติดกันว่า "หมอนี่ (รูธ) มันเพี้ยนจริงๆ เขานั่งอยู่ด้านหลังผมพอดี ระวังทิศ 6 นาฬิกาให้ด้วย"
ในการพิจารณาคดี ไม่มีใครโต้แย้งแม้แต่คนเดียวว่านายรูธไม่ได้ยิง และฆาตกรรมเหยื่อทั้ง 2 ราย แต่ เจ. วอร์เรน เซนต์ จอห์น ทนายความของนายรูธพยายามแก้ต่าง โดยอ้างว่า ลูกความของเขามีอาการป่วยทางจิตมานานแล้ว "เขาฆ่าชายทั้ง 2 คนเพราะเขามีอาการหลอน เขาเชื่อว่าผู้ตายทั้ง 2 คนกำลังจะฆ่าเขา" นายวอร์เรนกล่าว
แต่ เจน สตาร์เนส ทนายความฝ่ายโจทก์ โต้แย้งคำกล่าวอ้างของทนายฝ่ายจำเลยอย่างสิ้นเชิง "ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ นี่ไม่ใช่ความผิดปกติทางจิต แต่เป็นความเลือดเย็น เป็นการฆาตกรรมที่ผ่านการคำนวณ เขามีความผิดฐานฆาตกรรม เขาไม่ได้มีความผิดปกติทางจิตแม้แต่น้อย" สตาร์เนสยังอ้างด้วยว่า นายรูธสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างถูกและผิดได้
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
Source: ศาลฟันคุกตลอดชีวิต มือฆ่า 'คริส ไคล์' ตำนานสไนเปอร์มะกัน