วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ประวิตรสั่งจับตากลุ่มเคลื่อนไหว

889540เมื่อถามถึงกรณีที่มีการแดสงสัญญาลักษณ์ชู 3 นิ้วและเผยแพร่ผ่านโชเชียลเน็ตเวิร์คก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปติดต่อ เพื่อขอเชิญไปปรับทัศนะคติถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ในที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเอง ก็มีการกำชับกันว่า การปฏิบัติในเรื่องเหล่านี้จะต้องทำอย่างละเอียดอ่อน พิจารณาให้รอบคอบเหมาะสม เพราะโดยหลักของการดูแลการแสดงออกนั้น ต้องอยู่ในกติกาที่เรายอมรับว่า จะเป็นกฎ กติกา ซึ่งถ้าหากเป็นการยกประเด็นการต่อต้านในสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมาแสดงออก รัฐบาลมองว่า เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ดังนั้นอาจจะมีการเชิญมาพูดคุย เพื่อปรับทัศนคติไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งเหมือนในอดีต  ทั้งนี้ในส่วนงานของรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงจะมีศูนย์บริหารความมั่นคงแบบบูรณาการ (ศบม.) เพื่อแก้ปัญหาด้านความมั่นคง และรายงานให้ทราบในทุกสัปดาห์ว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างไร ดังนั้นหากมีปัญหาก็สามารถแจงเข้ามาในหน่วยงานเหล่านี้ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพชูป้ายต่อต้านในขณะที่อยู่บนดอยเชียงดาว ถือเป็นการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงหรือไม่

เพราะเมื่อลงเขามาแล้วถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปปรับทัศนะคติ  นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นส่วนของการเฝ้าระวังแต่ตนยังไม่เห็นรายละเอียด เพียงเข้าใจว่า เป็นงานในส่วนของการเฝ้าระวังของหน่วยงานความมั่นคงที่ดูแลอยู่ กรณีดังกล่าวเห็นว่าเป็นการเชิญไปพูดคุยแล้วก็ปล่อยตัวไปซึ่งถือเป็นการเฝ้าระวังเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ในที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงได้มีการพูดคุยถึงภาพยนตร์ เรื่องฮังเกอร์เกมส์หรือไม่ว่า  จะต้องขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการในการฉายภาพยนตร์ดังกล่าวอย่างไร นายปณิธาน กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องของทางโรงภาพยนตร์ที่จะดำเนินการ เข้าใจว่าผู้ประกอบการเองคงดูความเหมาะสม อาจมีบางคนนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามภาครัฐคงไม่ต้องไปพูดคุยกับผู้ประกอบการ เพราะเชื่อว่า เขาคงเข้าใจและไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา

เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 22 พ.ย.ที่ห้องวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี   รองนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมหน่วยงานความมั่นคงและกำชับทุกหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับทุกส่วนงานด้านความมั่นคงทุกส่วนงานให้ทำงานมากขึ้น เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในช่วงเวลานี้ที่กำลังจะเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาการทำงานด้านความมั่นคงเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนการทำงาน 6 เดือนข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศบ้านเมือง นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร  ได้มอบให้หน่วยงานความมั่นคงทำความเข้าใจกับกลุ่มต่าง ๆ ที่มีการเคลื่อนไหว รวมถึงยังได้กำชับ เรื่องการบริหารงานส่วนภูมิภาค โดยกำชับให้รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีแต่ละคนได้กำหนดงานในส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น รวมถึงให้มีการรายงานเข้ามาให้ทราบเป็นระยะ ๆ และลงพื้นที่ในส่วนต่าง ๆ เกือบทุกสัปดาห์ และให้รายงานต่อครม.ทุก ๆ 3 เดือน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่พล.อ.ประวิตรได้กำชับส่วนงานภูมิภาคให้มีการปรับเปลี่ยน เพื่อความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลห้ามให้มีการแสดงออกจะเป็นการเพิ่มความรุนแรงหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ห้ามหากดูจากกลุ่มพลังต่าง ๆ ฝ่ายความมั่นคงมอง ว่า การที่นิสิต นักศึกษาเคลื่อนไหวนั้น  ก็ทำกันอยู่ในรอบรั้วมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เพียงแต่หากจะมีใครไปหยิบตรงนั้นมาใช้ประโยชน์มีการพลักดันที่ไม่บริสุทธิ์ใจ ตรงนั้นถือเป็นงานของหน่วยความมั่นคง แต่ถ้ามีการผลักดันโดยกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีมาอยู่เบื้องหลังของความเคลื่อนไหวเหล่านั้นคงต้องเข้าไปดูแลทั้งหมด โดยทั่วไปตนคิดว่า นายกรัฐมนตรีอยากฟังความคิดเห็นเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ในส่วนของคนที่อยู่เบื้องหลังหน่วยงานความมั่นคงก็กำลังพิจารณาอยู่ว่า มีหรือไม่ กำลังทำการประเมินโดยปกติจะมีการรายงานให้รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงทราบเป็นระยะอยู่แล้ว ดังนั้นในช่วง 6 เดือนต่อไปคงต้องดูแลในเรื่องเหล่านี้พอสมควร

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ประวิตรสั่งจับตากลุ่มเคลื่อนไหว